“ตรีนุช” ให้ รร.โซนแดง-ส้ม เปิดก่อน 14 มิ.ย.ได้ แต่ต้องปิดพร้อมกัน 15 ต.ค.

ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

“ตรีนุช” รมว.กระทรวงศึกษาธิการ เปิดออฟชั่นให้โรงเรียนในพื้นที่แดง-ส้ม เปิดเทอมก่อน 14 มิ.ย. ได้ แต่ต้องปิดพร้อมกัน 15 ต.ค. ส่วนพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด กรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรปราการ สอนออนไลน์-ออนแอร์เท่านั้น

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงกรณีที่ยังมีหลายคนที่เข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับวันเปิดภาคเรียน เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน

โดย น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า การพิจารณาเลื่อนเปิดเทอมแบ่งตามเขตพื้นที่สถานศึกษา ตามระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็น 3 ระดับ ได้แก่ พื้นที่สีแดงเข้ม (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด), พื้นที่สีแดง (พื้นที่ควบคุมสูงสุด) และพื้นที่สีส้ม (พื้นที่ควบคุม) โดยสถานศึกษาทุกแห่งจะต้องเปิดภาคเรียนในวันที่ 14 มิ.ย. 2564 เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม หากมีสถานศึกษาที่มีความพร้อมและมีความประสงค์ที่จะเปิดให้มีการเรียนการสอนก่อนวันที่ 14 มิ.ย. 2564 สามารถเปิดทำการได้ โดยจะต้องปฏิบัติตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่กระทรวงกำหนด และดำเนินตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่ดครัด โดยแบ่งเป็นเกณฑ์ปฎิบัติ 2 กรณีดังนี้

  1. พื้นที่สีแดง และพื้นที่สีส้ม ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาดำเนินการประเมินความพร้อมตามระบบ Thai Stop Covid Plus (TSC+) ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ใน 6 มิติ จำนวน 44 ข้อ (ตามลิ้งก์ บันทึกสถานศึกษาในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2564) และต้องผ่านทุกข้อ จากนั้นต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่ออนุญาตให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้นสามารถจัดการเรียนการสอนแบบ On-site (การสอนตามปกติ) ได้ ซึ่งโรงเรียนสามารถเลือกรูปแบบการเรียนการสอนได้ได้ 5 รูปแบบตามความเหมาะสม และอาจจัดให้มีการผสมผสานรูปแบบได้
  2. พื้นที่สีแดงเข้ม (4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ) เปิดสอนก่อนได้แต่สามารถจัดการเรียนได้ในรูปแบบการสอนแบบ Online (การเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต) และแบบ On-air (การเรียนการสอนผ่านทีวี) เท่านั้น ส่วนในกรณีการเรียนการสอนแบบ On-hand (สำหรับนักเรียนที่ไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์เทคโนโลยี และต้องใช้หนังสือ แบบฝึกหัด ใบงาน ไปเรียนรู้ที่บ้าน) ให้ส่งทางไปรษณีย์

ถึงแม้โรงเรียนจะเปิดไม่พร้อมกัน แต่ต้องปิดเทอมพร้อมกันในวันที่ 15 ต.ค. 2564 เพื่อไม่กระทบกับปฏิทินการสอบต่าง ๆ

การเรียนการสอนแบบ On–demand คือ ผ่านทางเว็บไซต์ DLTV (www.dltv.ac.th) ช่อง Youtube (DLTV Channel 1-15) และแอปพลิเคชั่น DLTV บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

“สถานศึกษาแต่ละแห่งมีความพร้อมและความจำเป็นในการเปิดภาคเรียนแตกต่างกัน ทางกระทรวงศึกษาธิการจึงคำนึงถึงบริบทและปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเปิดภาคเรียนในทุกมิติ โดยสถานศึกษาที่อยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงสูง เราพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อความปลอดภัยเป็นสำคัญ แต่สถานศึกษาที่อาจอยู่ในเขตพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือมีความพร้อมในการเปิดภาคเรียน เราจะพิจารณาถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การเข้าถึงอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนในพื้นที่ชนบท โอกาสในการเรียนรู้ ความพร้อมของผู้ปกครองในการดูแลเลี้ยงดูบุตรหลานหากต้องพาไปสถานที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งการพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องนี้ ทำให้เราเปิดทางเลือก สำหรับสถานศึกษาที่อยู่ในบริบทดังกล่าว” น.ส.ตรีนุช กล่าว

ทั้งนี้ จะมีการประเมินความพร้อมของการจัดการเรียนการสอนอยู่เป็นระยะ หากเกิดสถานการณ์ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของเพื่อนครู ผู้เรียน และผู้ปกครอง ศธ.จะต้องหาแนวทางใหม่ที่เหมาะสมสำหรับทุกคน

นอกจากนั้น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีการตั้ง ‘ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงศึกษาธิการ (ศบค.ศธ.)’ โดยจะเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารและประเด็นปัญหาจากการได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดฯ รวมทั้งจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเสนอ ศบค. ชุดเล็ก เพื่อพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่งจะสนับสนุนให้การดำเนินงานของมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น