โรงเรียน 1.2 หมื่นแห่งเปิดออนไซต์แล้ว ศธ. คาดเดือนนี้ทยอยเปิดครบ 3 หมื่นแห่ง

เปิดเทอมวันแรก โรงเรียนเปิดออนไซต์แล้วกว่า 1.2 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ศธ. คาดภายใน 1 เดือน ทยอยเปิดครบ 3 หมื่นแห่ง

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาง​สาว​ตรี​นุช​ เทียน​ทอง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา​ธิการ​ และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ติดตาม​ความพร้อม​การเปิดภาคเรียน​ที่ 2 ปีการศึกษา 2564 และการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์​การแพร่ระบาด​ของโรคโควิด-19 ในพื้นที่​จังหวัดสมุทร​สาคร

นางสาวตรีนุช เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดเรียนในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ มีโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แจ้งเปิด 12,000 แห่ง จากทั้งหมด 35,000 แห่ง และจะมีการทยอยเปิดเรียนมากขึ้นตามความพร้อมของจังหวัด และสถานศึกษาในวันที่ 15 พฤศจิกายน

โดย ศธ.ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเปิดเรียนได้จำนวนกี่แห่ง แต่เน้นความพร้อมตามมาตรการความปลอดภัยเป็นหลัก และโรงเรียนแต่ละแห่งจะต้องมีมาตรการและแผนเผชิญเหตุไว้เป็นอย่างดี รวมถึง ศธ.ได้มีคณะทำงานเฝ้าระวังติดตามข้อมูลการเปิดเรียนใน 5 รูปแบบ

คือ On site, Online, On hand, On demand และ On-air แบบเรียลไทม์ตลอดเวลา และหากมีการแพร่ระบาดภายในโรงเรียน จะไม่มีการปิดทั้งโรงเรียน แต่จะเป็นการบริหารจัดการในห้องหรือพื้นที่ที่มีนักเรียนติดเท่านั้น ส่วนการตรวจ ATK (Antigen Test Kit) นั้นจะใช้คัดกรองกับสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือมีการติดเชื้อเกิดขึ้น

ดังนั้นหากพบว่ามีนักเรียนติดเชื้อโควิดจะเป็นการปิดเฉพาะห้องเรียนนั้น และจะไม่มีการปิดโรงเรียนอีกแล้ว ซึ่งเราจะต้องอยู่กับโรคนี้ให้ได้ เนื่องจากเราอยู่กับเชื้อโควิดมากว่า 18 เดือนแล้ว ต้องปรับตัวอยู่กับมันให้ได้ คิดว่าวันนี้ความเข้าใจของสังคมไทยในเรื่องของการอยู่กับโควิด-19 มีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับครูและนักเรียนด้วย ขณะเดียวกันขอให้เข้มงวดกับมาตรการส่วนบุคคล เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตรูปแบบ New Normal มั่นใจว่าเมื่อเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดจะสามารถรับมือได้อย่างเต็มที่

ขณะที่ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สำหรับการเปิดเรียนในวันนี้ คาดว่ามีโรงเรียนกว่า 1 หมื่นโรงเรียนที่เปิดแบบ On-site ได้เกือบ 100% และอีกกว่า 2 หมื่นโรงเรียน คาดว่าจะสามารถทยอยเปิดการเรียนการสอนแบบ On-site ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามจะสามารถเรียน On-site ได้ 100% หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละโรงเรียนเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่สถานศึกษาทุกแห่งต้องปฏิบัติ

“ขอให้ความเชื่อมั่นให้แก่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชนทั่วไปว่าโรงเรียนทุกแห่งมีระบบคัดกรอง และต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งขณะนี้โรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียนประจำกว่า 1 หมื่นโรงเรียน สามารถเปิดเรียน On-site ได้ 100% ส่วนที่เหลืออีก 2 หมื่นโรงนั้นจะทยอยเปิด On-site ควบคู่ไปกับ Online, On-air, On-demand และ On-hand ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ และจะเพิ่มสัดส่วน On-site ขึ้นเรื่อย ๆ ตามสถานการณ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับความปลอดภัยของผู้เรียนและผู้สอนเป็นสำคัญ”

อย่างไรก็ตาม ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า สำหรับโรงเรียนการศึกษาพิเศษ และอาชีวะเกษตรทั้ง 47 แห่ง สามารถเปิดการเรียนการสอน On-site ได้เป็นปกติ เพราะเป็นโรงเรียนประจำ มีการคัดกรองเด็กนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน และปฏิบัติการตามมาตรการภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ขอให้ผู้ปกครองอย่าได้เป็นกังวล เปิดเทอมนี้เด็กทุกคนต้องได้เรียนพร้อมกันตามช่องทางที่เหมาะสม

ทั้งนี้โรงเรียนจะต้องจัดการเรียนการสอน โดยปฏิบัติตามเงื่อนไข 5 ส่วน 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม โดยมีสาระสำคัญ 5 ส่วน ดังนี้

1.เงื่อนไขหลักของมาตรการ Sandbox Safety Zone in School รองรับการเปิดภาคการศึกษาที่ 2/2564 โดยจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาแบบ on-site จำแนกตามเขตพื้นที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

2.เงื่อนไขข้อกำหนดของ 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา (ประเภทไป-กลับ)

3.หลักเกณฑ์การพิจารณาสำหรับการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)

4.มาตรการตามแผนเผชิญเหตุตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของสถานศึกษา

5.หลักเกณฑ์การพิจารณาสำหรับการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่อการสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

ด้านนายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้อัพเดตข้อมูลการฉีดวัคซีนของนักเรียนว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2564 จำนวนนักเรียนนักศึกษาอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศ มีจำนวนผู้ประสงค์ฉีด 3,820,489 คน ฉีดวัคซีนแล้ว 2,833,447 คน คิดเป็น 74.16% แยกเป็น ภาคใต้ ฉีดแล้ว 72.92% ภาคเหนือ ฉีดแล้ว 67.34% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฉีดแล้ว 76.30% ภาคตะวันออก ฉีดแล้ว 60.28% ภาคตะวันตก ฉีดแล้ว 80.06% มากที่สุด ภาคกลาง ฉีดแล้ว 77.41%