“หมอธี-หมออุดม” เกี่ยวแขนถือฤกษ์ดี “วันพ่อแห่งชาติ” รับตำแหน่ง ผลักดันตั้ง ก.อุดมศึกษา

เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 5 ธันวาคม นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เดินทางเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. พร้อมด้วยผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ข้าราชการ บุคลากรให้การต้อนรับ

จากนั้น นพ.อุดม ได้ไปสักการะพระพุทธบารมีศักดิ์สิทธิ์สยาม-มิศรจักรีสัฏฐ์อนุสรณ์ศึกษากรรังสรรค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ศาลพระภูมิ และพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 ก่อนจะเดินขึ้นไปห้องทำงานบนชั้น 2 ของอาคารราชวัลลภ โดย นพ.ธีระเกียรติกล่าวต้อนรับว่า หลายคนสงสัยว่าทำไม ศธ.มีหมอมาเป็นรัฐมนตรีอีกคน แต่จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวว่าจะเป็นหมอ หรือเป็นทหาร นพ.อุดมเป็นหมอที่อยู่ในวงการศึกษามานาน และครั้งนี้จะมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล โดย นพ.อุดมไม่ได้มาทำงานด้านอุดมศึกษาอย่างเดียว แต่จะเข้ามาช่วยดูแลการศึกษาทั้งระบบ ตนขอต้อนรับคนทำงานการศึกษา ซึ่งเป็นที่ยอมรับของประเทศ การเข้ามารับตำแหน่งของ นพ.อุดม ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ที่มีข้าราชการมาร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น ไม่ว่าจะอย่างไร ในอีก 1 ปี รัฐบาลและพวกตนก็ต้องไป ดังนั้น จากนี้อยากให้บรรยากาศการทำงานอบอุ่นเช่นนี้ตลอดไป ช่วยวางแนวทาง เพราะเมื่อนักการเมืองเข้า หากแนวทางเราดี เขาก็ต้องทำตามที่เราวางไว้ ข้าราชการจะได้ไม่ต้องรับแรงกดดันทางการเมืองโดยไม่จำเป็น

นพ.อุดมกล่าวว่า ตนเป็นแพทย์ก็จริงแต่ช่วงหลังได้มาทำงานด้านการศึกษาเป็นส่วนใหญ่ คิดว่า ศธ.เป็นกระทรวงที่สำคัญเพราะเป็นอนาคตของชาติ ถ้า ศธ.ไม่ปรับตัวเอง ขับเคลื่อนงานต่างๆ ให้สำเร็จ ประเทศเราไม่มีทางพัฒนา เพราะการศึกษาเป็นพื้นฐานของการพัฒนาทุกอย่าง ดังนั้น การปฏิรูปการศึกษาทุกระดับตั้งแต่ก่อนอุดมศึกษา จนถึงอุดมศึกษาต้องเชื่อมโยงทั้งระบบ

“ผมไม่ได้ดูฤกษ์อะไรเป็นพิเศษ แต่ถือเอาวันดี วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 วันพ่อแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันมงคล เป็นฤกษ์ดี ผมเองมีความผูกพันกับในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งที่พระองค์ประทับที่โรงพยาบาลศิริราช จึงขอนำพระองค์ท่านเป็นหลักชัยในการเข้าทำงาน ถือเป็นวันมงคล ให้ทำงานอย่างประสบความสำเร็จราบรื่น ทั้งนี้ ผมเองตั้งใจมาทำงานแม้จะรู้ว่าเป็นช่วงเวลาสั้น เพราะหลังเลือกตั้งคงบอกไม่ได้ว่าเราจะเป็นอย่างไร และมีคนบอกผมว่า ผมมาช่วงนี้เป็นช่วงที่จะมีคนด่าพอดี เพราะกำลังจะเลือกตั้ง แต่ไม่เป็นไร ผมยินดีรับคำด่า เราตั้งใจมาทำในสิ่งที่ดี เพื่อประเทศ ผมคิดว่าการวางรากฐานการปฏิรูปการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งก่อนอุดมศึกษา และอุดมศึกษาต้องไปด้วยกัน หากทำสำเร็จจะยกระดับประเทศ สร้างศักยภาพและทำให้ประเทศแข่งขันได้จริงๆ ทั้งหมดนี้ผมหรือรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ทำคนเดียวไม่ได้ ข้าราชการทุกคนต้องช่วยกัน ผมเองก็จะทุ่มเทเต็มที่เพื่ออนาคตของประเทศ” นพ.อุดมกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องอุดมศึกษาแล้ว ตนยังได้รับมอบหมายให้ลงไปแก้ปัญหาระบบอินเตอร์เน็ตใน 3 หมื่นโรงเรียน ให้สามารถใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างราบรื่น

นพ.อุดมกล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายที่อยากผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมในช่วง 1 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง อย่างแรก คือผลักดันให้เกิดกระทรวงการอุดมศึกษา ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง โดยได้หารือกับคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ที่มี นพ.จรัส สุวรรณเวลา เป็นประธานเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดต่างๆ ที่ได้รับข้อเสนอมาทางคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา ที่ตนเป็นประธานได้มีการปรับปรุงรายละเอียนค่อนข้างเรียบร้อย คาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอิสระฯในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ หากคณะกรรมการอิสระฯ ให้ความเห็นชอบจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ซึ่งเชื่อจะไม่มีปัญหา เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล จากนั้นจะเข้ากระบวนการสภานิติบัญญัติคาดว่าจะใช้เวลา 8-9 เดือน ก็จะมีผลบังคับใช้และเกิดเป็นกระทรวงการอุดมศึกษา

นอกจากการตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาแล้ว ยังต้องเดินหน้าเรื่องการปฏิรูปการศึกษา โดยระยะเร่งด่วน จะไปทำความเข้าใจกับทุกมหาวิทยาลัย ในเรื่องการจัดการเรียนการสอน ที่ต้องเปลี่ยนแปลง การเรียนเพียงศาสตร์เดียว อาจไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงอยากให้มหาวิทยาลัยปรับรูปแบบการเรียนการสอน โดยเปิดช่องให้นักศึกษาสามารถเรียนข้ามสาขา/คณะได้ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ สามารถเลือกเรียนบริหารหรือนิติศาสตร์ได้ เพื่อให้มีความรู้รอบด้าน นอกจากนี้ ยังอยากให้มหาวิทยาลัยจัดทำหลักสูตรผู้สูงอายุ เพราะอีกประมาณ 13 ปี จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ของจำนวนประชากรทั้งหมด คิดเป็น 1 ใน 4 ของคนทั้งประเทศ ดังนั้น มหาวิทยาลัยต้องเตรียมการรองรับ เปิดหลักสูตรให้ผู้สูงอายุได้เรียนและจบออกไปทำงานอย่างมีคุณภาพ

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์