เมืองไทยกำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเข้าไปทุกที แต่เมืองจีนเป็นไปนานแล้ว
ธุรกิจสตาร์ทอัพเก๋ๆ จึงเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เบ่งบานจนกลายเป็นสตาร์ทอัพระดับ “ยูนิคอร์น” ที่มีมูลค่าระดับ 1 หมื่นล้านเหรียญขึ้นไป
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
แต่ไม่ต้องถึงขนาด 1 หมื่นล้านเหรียญ ก็มีสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ และทำรายได้อย่างงดงาม เพียงแค่ระดับ SMEs
ที่จะยกตัวอย่างในที่นี้ถือเป็นสตาร์ทอัพที่ “ปฏิวัติ” วงการร้านตัดผมจีนให้เข้าสู่ยุค 4.0
เชื่อหรือไม่ ร้านตัดผม ซาลอน ที่เห็นกันเกลื่อนกลาดในเมืองไทย หากนำขึ้นไปจองคิวผ่านออนไลน์ เลือกช่างตัดผมผ่านแอพฯ รีวิวการให้บริการก็สามารถพลิกวงการได้เหมือน “หนานกวาเชอ”
สตาร์ทอัพในวงการเสริมความงาม มีชื่อร้านที่แปลว่า “รถฟักทอง” และมีชื่อภาษาอังกฤษว่า PUMPKIN COACH
เป็นการเปรียบเทียบว่า ลูกค้าที่มาใช้บริการหลังจากออกจากร้านก็จะสวย จะหล่อ พร้อมขึ้นรถฟักทองเหมือนซินเดอเรล่าไปหาเจ้าหญิง เจ้าชายในฝัน
“หวานกวาเชอ” ได้ทำสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นในวงการร้านตัดผม ด้วยการ สร้างแอพฯ ขึ้นมาเพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กสำหรับคนชอบความสวยความงาม
คนที่ไม่เคยเป็นลูกค้า สามารถเห็นผลการตัด ดัด ซอย ย้อมสี ไฮไลท์ ของช่างคนดังในแต่ละเมือง จากภาพที่เพิ่งโพสต์ใหม่ๆ นอกจากนั้นยังสามารถอ่าน “รีวิว” ของลูกค้าและดูเรตติ้งงคะแนนของช่างแต่ละคนเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนใช้มือจิ้มเลือกช่างผ่านมือถือสมาร์ทโฟนได้อีก
ไม่เพียงเท่านั้น ทุกครั้งที่มาตรงเวลาก็จะได้ตัดผมทันใจ เพราะจองคิวไว้แล้ว อีกทั้งไม่มีการโฆษณาขายคอร์สหรือสินค้าใดๆ
ส่วนช่างตัดผมก็จะมีแอพฯ สำหรับเรียกลูกค้าพร้อมระบบจองคิวให้เสร็จสรรพ ทำให้ไม่ต้องเดินไปเปิดสมุดคิวหรือโกงคิวกันระหว่างช่างด้วยกันเอง ทั้งหมดนี้ทำให้ช่างตัดผมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ศิลปินจะสามารถโฟกัสเฉพาะกับงานฝีมือของตนโดยไม่ต้องปวดหัวกับการบริหารจัดการใดๆ อีก
ข่างที่มาสมัครเป็นช่างประจำของร้าน จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมพื้นฐานให้กับแอพเดือนละ 25,000 บาท รวมถึงค่าปลีกย่อยนิดๆ หน่อยๆ หลังจากหักค่าธรรมเนียม ส่วนที่เหลือช่างก็จะรับไปเต็มๆ
ด้านทำเลที่ตั้งร้าน ทีมงานเลือกทั้งแบบเปิดร้านตัดผมของตัวเองในย่านใจกลางธุรกิจ แต่จะเลือกเปิดบนตึกออฟฟิศสำนักงาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและสามารถขยายพื้นที่ให้ใหญ่มากขึ้นได้ดำเพื่อรองรับลูกค้าที่มาใช้บริการ
ปรากฏว่าช่างตัดผมที่มาเป็นช่างประจำของ “หนานกวาเชอ” ชอบอกชอบใจดีกว่าเปิดร้านเป็นของตัวเอง ไม่ต้องมีลูกน้อง แถมช่างคนไหนที่ได้ “เรตติ้ง” จากลูกค้าดี คำรีวิวดีเยี่ยม ก็จะมีลูกค้าเพิ่มโดยอัตโนมัติจากผลงานโชว์ในแอพฯ
ฝั่งลูกค้าเองก็จ่ายเงินง่ายๆ ผ่านอลีเพย์ แถมมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการเป็นครั้งแรก จ่ายเพียง 25 หยวน หรือ 125 บาทเท่านั้น
แต่เชื่อไหม เจ้าของไอเดียผู้ก่อตั้ง “หนานกวาเชอ” อายุเพียง 30 ต้นๆ เท่านั้นเอง เคยผ่านการทำงานในบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังของจีนมาก่อน เธอบอกเหตุผลที่มาปฏิวัติธุรกิจร้านตัดผมว่า โดยเฉลี่ยผู้ชายตัดผมเดือนละครั้ง ส่วนผู้หญิงนอกจากจะตัดผมแล้ว ยังม็อบ สระ ไดร์ ทำสี เพราะฉะนั้น ธุรกิจเสริมสายจึงเป็นธุรกิจที่ควรลงทุน
“หนานกวาเชอ” มีกว่า 30 สาขา ทั้งในหังโจว และเซี่ยงไฮ้
เรียบเรียงจาก เหินห่าว BUSINESS อยากเก่งธุรกิจต้องคิดอย่างจีน
ภาพจาก read01.com
