บล.KTBST ประเมินตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ ปัจจัยเศรษฐกิจยังหนุน SET Index ต่อไป

บล.KTBST ประเมินตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (15-19 ม.ค.) ปัจจัยเศรษฐกิจยังหนุน SET Index ต่อไป การปรับฐานเริ่มลดลง และเริ่มมีเก็งกำไรงบ Q4 แต่ยังต้องจับตาแรงขายของต่างชาติและความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ คาดกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,790-1,837 จุด

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (15-19 ม.ค.) ว่า ดัชนีฯมีโอกาสเดินหน้าต่อ ตัวแปรสนับสนุนให้หุ้นไทยไปต่อได้ หลักๆ คือ ปัจจัยในประเทศที่ยังดี ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองที่มีทิศทางที่ชัดเจน และการปรับฐานของตลาด ที่คาดว่าจะจบลง เพราะจากนี้ นักลงทุนจะเริ่มเข้ามาเก็งกำไรในงบ 4Q และเงินปันผล รวมถึงปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุน คือ ดอลลาร์อ่อน ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น (WTI=$64) ปัจจัยถ่วงจะเป็นเรื่องการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศและนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุน จากการปรับฐานของตลาดที่คาดว่าจบลง นักลงทุนสามารถถือหุ้นต่อไปได้โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มใหญ่ แต่การเข้าลงทุนในหุ้นรายตัว คาดแรงซื้อจะเป็นลักษณะของการเลือกลงทุน (selective) เพราะหุ้นขึ้นมามากในระดับหนึ่งแล้ว นักลงทุนน่าจะมีการสลับกลุ่มไปยังหุ้นที่ราคาอ่อนตัวลงมาบ้างหรือมีปัจจัยเฉพาะตัว สัปดาห์นี้ KTBST กลับมาให้น้ำหนักลงทุนกับหุ้นที่อิงกับปัจจัยบวกในประเทศอีกครั้ง คือ ธนาคาร-ค้าปลีก-นิคมฯ หุ้นที่เราแนะนำใน 3 กลุ่มหลัก จะเป็น BBL, TMB, BJC, WHA ส่วนหุ้นที่ปัจจัยเฉพาะตัว จะเป็น DELTA และ WICE ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,790-1,837 จุด

ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นครั้งแรกของปี 2018 แม้การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯยังไม่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ แต่คาดว่าประเด็นดังกล่าวจะเริ่มเป็นที่พูดถึงในช่วงสัปดาห์นี้ ปัจจุบันโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยสำหรับเดือน ม.ค.น้อยมาก แต่ให้ติดตามการส่งสัญญาณจำนวนครั้งในการขึ้นดอกเบี้ย การคาดการณ์ล่าสุดอยู่ที่ 3 ครั้งในปี 2018

ด้านราคาน้ำมันดิบสามารถยืนอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องได้ ซึ่งปัจจุบันใกล้แตะระดับ 64 เหรียญ/บาร์เรล เรามีมุมมองเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบมากขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 8 สัปดาห์และกลุ่มประเทศโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น รัสเซีย อาจจะยังคงจับมือเป็นพันธมิตรกันต่อไป

สำหรับปัจจัยในประเทศ ต้องติดตามตัวเลขส่งออกไทยประจำเดือน ธ.ค. 2560 ที่จะประกาศในวันที่ 19 ม.ค. นี้ โดยที่ตัวเลขในช่วงเดือนก่อนหน้าเติบโตที่ระดับ 13.4%

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสำคัญคือ หุ้นกลุ่มแบงก์จะมีการประกาศงบทุกตัวในสัปดาห์นี้ โดยที่ TISCO รายงานกำไร 4Q-17 ที่ 1,522 ล้านบาท ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 1,508 ล้านบาท การเก็งกำไรจะเริ่มมีมาให้เห็นมากขึ้น กลุ่มแบงก์ที่ KTBSTคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ดีที่สุดในช่วง 4Q 17 คือ TMB คาดไว้ที่ 2,396 ล้านบาท (+12% YoY, +20% QoQ) เติบโตได้ดีจากรายได้ค่าธรรมเนียมจาก FWD ที่เป็นตัวผลักดันให้ผลการดำเนินงานยังคงเติบโตต่อเนื่อง