“สมคิด” ดันอันดับยากง่ายทำธุรกิจติดท็อป 20 ของโลกจากปีที่แล้วอยู่ที่ 24-เร่งแก้กม.เอื้อดิจิทัล

ที่กระทรวงการคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมเรื่องอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing business) จัดโดยธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ว่าในการประชุมดังกล่าวหารือถึงกิจกรรมที่ต้องทำในปีนี้ ทุกอย่างที่รัฐบาลทำไปเวิลด์แบงก์ต้องรับรู้ ซึ่งในปีนี้พยายามทำให้สิ่งที่ค้างอยู่ตั้งแต่ปีที่แล้ว รวมถึงต้องมีการปฏิรูปกฎหมาย โดยสิ่งที่ต้องการทำมีอยู่ 2 อย่างคือ อยากให้เร่งเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัล ทั้งในเรื่องกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ โดยมอบหมายให้นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันกระทรวงการคลังไปหารือกับผู้เกี่ยวข้อง พยายามตั้งทีมงานปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ให้รองรับดิจิทัล เช่น การปรับปรุงกฎหมายรองรับธุรกิจสตาร์ตอัพ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องกฎหมายดิจิทัลจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล ถ้ามีการปรับปรุงกฎหมายทำให้อันดับของไทยสูงขึ้นมาก โดยสิ่งที่รองนายกฯ อยากเห็นคือการที่สตาร์ตอัพมาใช้ไทยเป็นฐานในการทำงาน ต้องมีการจดทะเบียนในไทย ขณะนี้กฎหมายต่างๆ ยังไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ในที่ประชุมหารือถึงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อเตรียมการไปสู่อันดับที่ดีกว่าปีที่แล้ว ตั้งใจผลักดันปีนี้เป็นปีแห่งดิจิทัลไทยแลนด์ 2018

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กล่าวว่า ในปีนี้ตั้งเป้าหมายดูอิงบิสซิเนสว่าไทยจะสามารถขึ้นมาอยู่อันดับ 1 ใน 20 จากปี 2560 อยู่ที่อันดับ 24 ขึ้นมาจากอันดับ 46 ของปีก่อน โดยในปีที่แล้วหลายเรื่องที่คะแนนไม่ดีขึ้น เช่น ในเรื่องการขอใบอนุญาตก่อสร้าง การจดทะเบียนสินทรัพย์ ล้มละลาย และในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้นในปีนี้จะให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว รวมถึงเร่งผลักดันให้มีการใช้ระบบออนไลน์ในการติดต่อราชการ เช่นกรณีประกันสังคม ศาล ที่เปิดให้ใช้ระบบออนไลน์แล้ว แต่คนไม่ค่อยมาใช้บริการยังเคยชินกับระบบกระดาษ ดังนั้นนายสมคิดให้มอบให้ไปคิดมาว่าจะมีการจูงใจให้มีการใช้ระบบออนไลน์อย่างไร เช่นในสหรัฐ ถ้าใช้ออนไลน์เสียค่าธรรมเนียม 1 เหรียญ ใช้กระดาษเสียค่าธรรมเนียม 20 เหรียญ

“นายสมคิดสั่งการให้มีการเปลี่ยนแปลงในการติดต่อราชการเป็นดิจิทัลทั้งหมดตั้งเป้าหมาย 1 ปี เพื่อลดการใช้กระดาษลง โดยให้ไปหาแนวทางจูงใจ โดยในปีนี้เวิลด์แบงก์เข้ามาเก็บข้อมูลในไทยช่วงเดือนมิถุนายน ถ้าไทยเริ่มการเปลี่ยนแปลงให้เขาเห็น น่าจะทำให้อันดับของไทยดีขึ้น” นายทศพรกล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์