กำไร บจ. ครึ่งปีแรก 5.96 แสนล้าน โต 13.92%

หุ้น-ภาษี-เงิน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานกำไรบริษัทจดทะเบียนครึ่งปีแรก’65 บจ.ใน SET มีกำไรสุทธิ 596,638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.92% แต่ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ฟาก บจ.mai มีกำไร 4,275 ล้านบาท โต 14.4%

วันที่ 26 สิงหาคม 2565 นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) จำนวน 759 บริษัท คิดเป็น 96.7% จากทั้งหมด 785 บริษัท (รวม SET และ mai และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บจ. ในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC) ได้นำส่งผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 พบว่ามี บจ.รายงานกำไรสุทธิ 586 บริษัท คิดเป็น 77.2% ของ บจ.ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด

โดยพบว่า บจ.ใน SET มียอดขาย 8,605,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 40.1% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) แต่มีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) อยู่ที่ 1,078,048 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.9% และมีกำไรสุทธิ 596,638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.92%

ทั้งนี้ อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Core profit margin) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบ YOY เหลือ 12.5% จาก 13.2% เช่นเดียวกับอัตรากำไรสุทธิปรับเหลือ 6.9% จาก 8.5%

โดยฐานะการเงินของกิจการ สิ้นวันที่ 30 มิถุนายน 2565 พบว่า บจ.ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (DE) (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ระดับ 1.59 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.53 เท่า เมื่อเทียบกับงวดปีก่อน

“การผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโรคโควิดตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ, อาหาร, แฟชั่น และอุตสาหกรรมบริการ อีกทั้งทิศทางการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดอุปสงค์ของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และทำให้กลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ มีผลประกอบการดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก กดดันต้นทุนการผลิตและผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่ แม้ผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น แต่ยังสามารถควบคุมสัดส่วนต่อรายได้ในระดับเดิม” นายแมนพงศ์กล่าว

ด้านผลการดำเนินงานของ บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 6 เดือนแรกปี 2565 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 99,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% ต้นทุนขาย 79,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.2% มีกำไรจากการดำเนินงาน 5,021 ล้านบาท ลดลง 3.6% และมีกำไรสุทธิ 4,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4%