บ้านปู เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 3 รุ่น จ่าย 3.26-4.20% เสนอขาย 14-16 และ 19 ก.ย.นี้

BANPU บ้านปู

บ้านปู เคาะผลตอบแทนหุ้นกู้ 3 รุ่น ดอกเบี้ย 3.26-4.20% ต่อปี เรทติ้ง A+ เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป-ผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่าง 14-16 และ 19 ก.ย.นี้ ผ่าน 4 สถาบันการเงินชั้นนำ

วันที่ 1 กันยายน 2565 นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดผลตอบแทนหุ้นกู้ที่จะออกและเสนอขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) จำนวน 3 รุ่น ประกอบด้วยรุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.26% ต่อปี รุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20% ต่อปี เสนอขายระหว่างวันที่ 14-16 และ 19 กันยายน 2565 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร

โดยหุ้นกู้ที่จะเสนอขายในครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ บริษัทและหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ระดับ A+ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานของบ้านปู ที่พร้อมขยายการเติบโตเพื่อส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน (Smarter Energy for Sustainability) ภายใต้การเปลี่ยนผ่านธุรกิจของบริษัทตามกลยุทธ์ Greener & Smarter รวมถึงความสามารถในการรักษาวินัยทางการเงินและการบริหารกระแสเงินสดไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง

“บริษัทมั่นใจว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น เมื่อพิจารณาร่วมกับอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ระดับ A+ จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้”

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง รวมทั้งรับรู้กำไรจากการซื้อธุรกิจก๊าซในสหรัฐ และธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มเติมโดยไตรมาสที่ 2/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 372 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 12,789 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 786 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565

โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) รวม 948 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 59 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 682 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 23,053 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 634 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ บ้านปูในฐานะผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ (International Versatile Energy Provider) มุ่งสร้างการเติบโตด้วย 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานใน 10 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม

ด้วยการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักความยั่งยืนหรือ ESG ทำให้ในปี 2565 นี้ บ้านปูได้รับผลการประเมินความยั่งยืนในระดับ A (ตามเกณฑ์วัด AAA ถึง CCC) จาก ESG Ratings โดย MSCI ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือในด้านดัชนี ESG ในระดับนานาชาติ

รวมถึงยังคงรักษาตำแหน่ง “Gold Class” ในกลุ่มอุตสาหกรรม Coal & Consumable Fuels ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 จากการประกาศผลรางวัล S&P Global Sustainability Yearbook 2022 ที่สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงาน ด้านความยั่งยืนที่โดดเด่น เมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันในระดับสากล