StashAway เปิดตัว Flexible Portfolio สร้างพอร์ตตามสไตล์ผ่าน ETF ทั่วโลก

StashAway เดินหน้าเปิดตัว “Flexible Portfolio” ครั้งแรกในประเทศไทย ให้นักลงทุนสร้างสรรค์พอร์ตใหม่ได้ในแบบของตัวเองผ่าน ETF ชั้นนำที่คัดสรรอย่างดีกว่า 35 สินทรัพย์ทั่วโลก พร้อมชูจุดเด่นใช้งานง่าย ปรับเพิ่ม-ลดสัดส่วนสินทรัพย์ที่ต้องการได้ตลอดเวลา

วันที่ 14 กันยายน 2565 นายยศกร นิรันดร์วิชย กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ StashAway ประเทศไทย กล่าวว่า

เราให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของนักลงทุนของเราเสมอ หลายคนอยากเพิ่ม-ลด หรือปรับสัดส่วนสินทรัพย์ในพอร์ตที่มีอยู่ตามมุมมองของตนเอง เราจึงตั้งใจพัฒนาโซลูชั่นการลงทุนที่ตอบโจทย์นี้ออกมาเป็น Flexible Portfolio

ซึ่งนักลงทุนแต่ละคนสามารถ Customise พอร์ตได้ตามความต้องการจากพอร์ตต้นแบบ หรือจัด Asset Allocation ใหม่ในแบบของตัวเอง จากกว่า 35 สินทรัพย์ทั่วโลก โดยที่เราได้คัดสรร ETF คุณภาพดีในแต่ละประเภทสินทรัพย์มาไว้ให้แล้ว ที่สำคัญ นักลงทุนจะได้เห็นระดับความเสี่ยงของพอร์ตที่ออกแบบได้ทันที จากนั้นระบบจะรักษา Asset Allocation ตามที่กำหนดไว้ให้อัตโนมัติ

“StashAway อยากเป็นกำลังขับเคลื่อนให้คนไทยสามารถลงทุนในต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น ลดการลงทุนแบบกระจุกตัวในประเทศ ซึ่ง Flexible Portfolio จะมาตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการออกแบบพอร์ตลงทุนทั่วโลกในสไตล์ของตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำและคุ้มค่า ที่สำคัญ เรานำเทคโนโลยี Fractional Share มาใช้ จึงไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ”

สำหรับ “Flexible Portfolio” ที่พัฒนาขึ้นโดย StashAway มาพร้อม 3 ฟีเจอร์หลักที่แตกต่างจากการลงทุนแบบดั้งเดิมและตอบโจทย์การลงทุนรูปแบบใหม่ ดังนี้

-การออกแบบพอร์ต ETF ได้ตามสไตล์ตัวเอง นักลงทุนสามารถเลือก Customise หรือ Create พอร์ตจากสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 35 สินทรัพย์ อาทิ หุ้นญี่ปุ่น, หุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets), ทองคำ, REITs, พันธบัตรรัฐบาลภูมิภาคต่าง ๆ ไปจนถึงหุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด, หุ้นกลุ่มบล็อกเชน, หุ้นกลุ่ม AI และ โรโบติกส์ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่น ๆ โดยเราได้คัดสรร ETF คุณภาพดีจากบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลกอย่าง iShares by BlackRock, Vanguard, SPDR, VanEck, ARK, และ GlobalX เพื่อให้นักลงทุนไม่ต้องเสียเวลาวิเคราะห์หากองทุน ETF ที่ดีที่สุดด้วยตัวเอง

-ระบบคำนวณระดับความเสี่ยงของพอร์ตเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) ที่ชัดเจน เพื่อให้นักลงทุนรับรู้และเข้าใจระดับความเสี่ยงที่แท้จริงของทุกพอร์ตที่มีกับเรา ซึ่งนักลงทุนจะสามารถเห็นได้ทันทีเมื่อสร้างหรือออกแบบพอร์ต เพราะที่ StashAway เราเชื่อว่านักลงทุนควรลงทุนในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวเองอย่างแท้จริงเพื่อสร้างความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

-ระบบ Rebalancing พอร์ตให้อัตโนมัติ เพื่อรักษา Asset Allocation ตามที่นักลงทุนกำหนดไว้ โดยระบบจะตรวจสอบในทุก ๆ วัน หากสัดส่วนของสินทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงเกินเกณฑ์ ระบบจะทำการซื้อ-ขายสินทรัพย์เพื่อคงสัดส่วนสินทรัพย์ตามที่กำหนดไว้ โดยไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมซื้อ-ขายเพิ่มเติม

การเปิดตัว Flexible Portfolio ในครั้งนี้ StashAway ยังได้มอบสิทธิพิเศษให้กับนักลงทุนที่สนใจ Flexible Portfolio โดยจะได้รับสิทธิ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 สำหรับทุกการฝากเงินลงทุนใน Flexible Portfolio


“StashAway ตั้งใจทำให้การลงทุนทั่วโลกเป็นเรื่องง่าย มีประสิทธิภาพสูงสุด และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะช่วยบริหารจัดการพอร์ตและจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบทุกโจทย์การลงทุนและสร้างการลงทุนในแบบที่ควรจะเป็น” นายยศกรกล่าวทิ้งท้าย