WP กลับมาแล้ว! ตลท.อนุมัติให้เทรดได้ 1 ก.พ.นี้

ตลท.อนุมัติให้ WP กลับมาซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 หลังฟื้นฟูกิจการและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การขอพ้นเหตุเพิกถอนแล้ว ฟากบริษัทยันกรรมการ-ผู้บริหาร-ผู้ถือหุ้นปัจจุบัน ไม่มีความสัมพันธ์กับ PICNI ชุดเดิมที่ได้ก่อความเสียหายในอดีต

บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) WP ได้ยื่นคำขอพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนและขอให้เปิดซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ สืบเนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ประกาศให้บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2551 เนื่องจากนำส่งงบการเงินประจำปี 2550 ล่าช้ากว่า 180 วัน ต่อมาเมื่อนำส่งงบการเงินฉบับดังกล่าว ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีปรากฎส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 1,648 ล้านบาท รวมทั้งผู้สอบบัญชี ไม่แสดงความเห็นในงบการเงิน 3 ปีติดต่อกัน โดยบริษัทได้ปรับปรุงฐานะการเงินแล้ว

โดย WP มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเป็นเวลา 1 ปี และงวดงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ จากงบการเงินประจำปี 2559 เท่ากับ 36 ล้านบาท และงบการเงินงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 เท่ากับ 108 ล้านบาท โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยาน 2560 เท่ากับ 675 ล้านบาท รวมถึงสามารถแสดงได้ว่าบริษัทมีฐานะการเงินและผลดำเนินงานมั่นคงตามสภาพธุรกิจไปอย่างต่อเนื่อง

ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาแล้วเหตุว่า WP มีคุณสมบัติครบถ้วนตามแนวทางและขั้นตอนดำเนินงาน เพื่อขอพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนครบถ้วนแล้ว ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์จึงเห็นควรให้หลักทรัพย์ของ WP พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน โดยปลดเครื่องหมาย “SP” (Suspension) และ “NC” (Non-compliance) ทุกเหตุที่บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน และให้เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป โดยราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายอาจไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์ในปัจจุบัน จึงขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลบริษัทได้จากสรุปข้อสนเทศของ WP

อนึ่งราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ WP ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด ทั้งนี้ บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP แจ้งว่า บริษัทซึ่งเกิดขึ้นจากการควบรวม บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด กับ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อนการควบบริษัทนั้น PICNI ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียน ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ลงวันที่ 14 มกราคม 2551 ต่อศาลล้มละลายกลาง ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2551 PICNI ได้นาส่งงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ซึ่งผ่านการตรวจสอบบัญชี ปรากฏส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่าศูนย์ กล่าวคือ ติดลบเป็นจานวน 1,647,968,985 บาท และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของ PICNI เป็นระยะเวลา 3 ปีติดต่อกัน จึงเข้าข่ายเหตุแห่งการเพิกถอนหลักทรัพย์ของ PICNI ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระหว่างการฟื้นฟูกิจการนั้น PICNI ได้ดำเนินการลดทุนลงจากจำนวน 4,453,349,970 หุ้น เหลือ 200,000,000 หุ้น และดำเนินการเพิ่มทุนใหม่จำนวน 1,800,000,000 หุ้น (สำหรับแปลงหนี้เป็นทุน 100,000,000 หุ้น และขายให้แก่ผู้ลงทุนรายใหม่ 1,700,000,000 หุ้น เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ) ต่อมา WG ได้เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนจานวน 1,700,000,000 หุ้นของ PICNI ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ และได้รับหุ้น PICNI จากการแปลงหนี้เป็นทุนในกระบวนการฟื้นฟูกิจการอีกจำนวน 2,644,587 หุ้น ส่งผลให้ WG เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 85.13 ของ PICNI ซึ่งการเข้าลงทุนของ WG ดังกล่าว ส่งผลให้ PICNI ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นผลสำเร็จ และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของ PICNI ในวันที่ 27 มีนาคม 2557 โดยผู้ถือหุ้นใหม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการและผู้บริหารเดิม และหลังจากนั้นได้ทำการควบบริษัทระหว่าง PICNI และ WG เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกิจการ และสร้างมูลค่าเพิ่มจากการรวมธุรกิจ (Synergy) ดังนั้น คณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในปัจจุบัน ไม่ได้มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องใดๆ กับคณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นของ PICNI ชุดเดิมที่ได้ก่อความเสียหายให้แก่ PICNI ในอดีต

เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การขอพ้นเหตุเพิกถอนแล้ว จึงได้มีหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2559 เพื่อขอพ้นเหตุเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Resume Trading) โดยบริษัทฯ มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การขอพ้นเหตุเพิกถอน