“กรุงไทย” ประกาศชะลอปิดสาขา ขอทบทวนผลกระทบประชาชน

กรุงไทยสวนกระแส ประกาศชะลอแผนปิดสาขา หลังปีก่อนปิดสาขา 80 สาขา หลังขอทบทวนผลกระทบจากประชาชนให้รอบคอบ หวั่นการปิดสาขาเป็นการผลักประชาชนเลิกใช้แบงก์เร็วขึ้น

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย หรือ (KTB) กล่าวว่า ล่าสุดธนาคารขอทบทวน และชะลอแผนการปิดสาขา เนื่องจากขอพิจารณาและทบทวนให้รอบด้านถึงผลกระทบจากการปิดสาขา ว่าจะกระทบผู้ใช้บริการทางการเงินหรือไม่ เพราะพบว่าที่ผ่านมา เมื่อมีสถาบันการเงินอื่นๆ ปิดสาขา ทำให้มีประชาชนบางส่วนหันมาใช้บริการทางการเงินกับธนาคารแทน ดังนั้นการปิดสาขาในบางจุด ก็อาจเป็นตัวกระตุ้น หรือผลักประชาชนให้เลิกใช้บริการของแบงก์เร็วขึ้น ดังนั้น การปิดสาขาเพิ่ม จึงเป็นสิ่งที่แบงก์ต้องทบทวนอย่างรอบคอบ

โดยหากดูการปิดสาขาของแบงก์ในปี 2560 ที่ผ่านมา แบงก์ปิดไป 80 สาขา ส่วนปี 2561 นั้นคาดว่า การปิดสาขาคงไม่มากเท่าปีก่อนหน้าแล้ว และอาจเห็นสาขารูปแบบใหม่เกิดขึ้น เช่น การใช้แมชชินหรือเทคโนโลยีทางการเงิน เข้ามาช่วยในการให้บริการทางการเงิน แทนสาขารูปแบบเดิมๆ

“เราประกาศชัดไม่ได้มีนโยบายเอาคนออก แต่เราจะไม่เพิ่มอัตราคน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 24,000 คน และเราตั้งเป้าว่า ภายใน 5 ปี จะต้องลดต้นทุนธนาคารให้ได้ 30% โดยจะเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ดังนั้นปีนี้จึงเป็นปีที่เราจะลงทุนเพิ่ม ซึ่งเป้าลงทุนคือกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่ที่เราลงทุนมา” นายผยงกล่าว

ส่วนความคืบหน้าการขายทอดที่ดินจำนวน 4.8 พันไร่ของบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) (AQ) ที่เป็นลูกหนี้ธนาคารเพื่อนำมาชำระหนี้นั้น ล่าสุด AQ ได้ชำระค่าเสียหายจากค่าเสื่อมให้ธนาคารแล้วที่ 1.6 พันล้านบาท แต่ธนาคารยังไม่มีการขายหลักประกันออก เนื่องจากมีเจ้าหนี้หนึ่งราย คัดค้านการขายหลักทรัพย์ ทำให้การขายหลักทรัพย์ถูกเลื่อนออกไป ซึ่งก็ต้องรอการพิจารณาจากศาลอีกครั้ง