ก.ล.ต. ส่งอัยการฟ้องศาลแพ่งอีก 2 ราย สร้างวอลุ่มเทียมผ่าน Stang Pro

ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ยื่นเรื่องพนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 2 ราย กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล “Satang Pro” หลังผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง

วันที่ 27 กันยายน 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึงการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่ (1) บริษัท LLC Fair Expo (2) Mr. Mikalai Zahorski (Mr. Mikalai)

กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Satang Pro (ศูนย์ซื้อขาย Satang) ของบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทสตางค์) โดยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ชำระเงินรวม 12,080,646 บาท รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลและกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 

ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่ (1) บริษัท LLC Fair Expo (2) Mr. Mikalai โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด คิดเป็นเงินรวม 12,080,646 บาท

ห้ามบริษัท LLC Fair Expo และ Mr. Mikalai ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นระยะเวลา 6 เดือน และห้าม Mr. Mikalai เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นระยะเวลา 12 เดือน ตามข่าว ก.ล.ต.* ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 นั้น

แต่เนื่องจากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด จึงพิจารณาได้ว่า ผู้กระทำความผิดดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดต่อศาลแพ่ง

เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวมทั้งสิ้น 12,080,646 บาท กำหนดห้าม Mr. Mikalai ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยให้ Mr. Mikalai ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบริษัท LLC Fair Expo อย่างลูกหนี้ร่วม