ธ.ก.ส. เปิดรับสมัครผู้จัดการใหญ่ ยื่นโปรไฟล์ได้ตั้งแต่ 6 ต.ค.-11 พ.ย.นี้

ธ.ก.ส.
ธ.ก.ส. ประกาศรับสมัครผู้จัดการธนาคาร

ธ.ก.ส. ประกาศรับสมัครผู้จัดการธนาคาร แทน “ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์” ผู้จัดการคนปัจจุบันที่จะครบวาระ ชี้ต้องมีคุณสมบัติกว่า 20 ข้อ ผู้สนใจยื่นใบสมัครได้ตั้งแต่ 6 ต.ค.-11 พ.ย.นี้

วันที่ 6 ตุลาคม 2565 นายจำเริญ โพธิยอด ประธานกรรมการสรรหาผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ออกประกาศรับสมัครผู้จัดการ ธ.ก.ส.คนใหม่ ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เนื่องจากนายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. คนปัจจุบัน กำลังจะครบวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 26 มี.ค. 2566 โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.ไปจนถึงวันที่ 11 พ.ย. 2565

ทั้งนี้ ผู้มีคุณสมบัติที่สนใจสามารถติดต่อขอรับแบบฟอร์มได้ที่ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ หรือ พิมพ์แบบฟอร์มการสมัครได้ที่ www.baac.or.th

โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  1. คุณสมบัติทั่วไป

1.1 มีสัญชาติไทย

1.2 มีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ ในวันยื่นใบสมัคร

1.3 มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง

1.4 ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

1.5 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

1.6 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

1.7 ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลงและความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต ไม่ว่าจะมีการรอการลงโทษหรือไม่ก็ตาม

1.8 ไม่เคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

1.9 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินหรือบริการการชำระเงินโดยมิได้รับอนุญาตหรือขึ้นทะเบียน

1.10 ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน หรือไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดฐานฟอกเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือไม่เคยเป็นบุคคลที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้ที่มีการกระทำอันเป็นการก่อการร้ายหรือต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง

1.11 ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่

1.12 ไม่เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นใดตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง

1.13 ไม่เป็นหรือภายในระยะเวลา 3 ปีก่อนวันได้รับแต่งตั้ง ไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดการหรือมีส่วนได้ส่วนเสียในนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์

ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เว้นแต่การเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าวโดยการมอบหมายของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

1.14 ไม่เป็นกรรมการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เว้นแต่เป็นผู้บริหารซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง

1.15 ไม่เคยเป็นผู้มีอำนาจในการจัดการซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะที่สถาบันการเงิน หรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจนั้น ๆ ถูกเพิกถอนใบอนุญาต เว้นแต่จะได้รับการยกเว้นจากธนาคารแห่งประเทศไทย

1.16 ไม่เคยถูกถอดถอนจากการเป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้มีอำนาจในการจัดการของสถาบันการเงินตามมาตรา 89 (3) หรือมาตรา 90 (4) แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 หรือไม่เคยถูกถอดถอนจากการเป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้มีอำนาจในการจัดการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจอื่น หรือบริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เว้นแต่จะได้รับยกเว้นจากธนาคารแห่งประเทศไทย

1.17 ไม่เป็นกรรมการหรือผู้ซึ่งมีอำนาจจัดการของนิติบุคคลที่เคยถูกสั่งห้ามประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับหรือธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ หรือถูกเพิกถอนการอนุญาตหรือขึ้นทะเบียน

1.18 ไม่เคยเป็นผู้ต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการ หรือผู้บริหารบริษัทมหาชนจำกัด เพราะเหตุมีลักษณะที่แสดงถึงการขาดความเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารจัดการกิจการที่มีมหาชน

เป็นผู้ถือหุ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

1.19 ไม่เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 และประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกส.13/2562 ด้านความซื่อสัตย์สุจริต และชื่อเสียง ด้านความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ และด้านสถานะทางการเงิน

  1. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง

2.1 มีความรอบรู้ และประสบการณ์ในการบริหารจัดการขององค์กรขนาดใหญ่ ดังนี้

2.1.1 เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร หรือ

2.1.2 เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี หรือเคยบริหารกิจการที่มีสินทรัพย์ไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท (มูลค่าสินทรัพย์ดังกล่าวต้องเกิดจากการบริหารกิจการที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนเอง โดยไม่นำสินทรัพย์ของบริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกันหรือกลุ่มบริษัทอื่นที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันซึ่งตนไม่ได้บริหารจัดการมารวมด้วย)

2.2 มีความรู้ ความสามารถด้านเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคารเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ต้องมีผลงานเชิงประจักษ์ในเรื่องการพัฒาองค์กร การบริหารจัดการ หรือการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดสภาวะชั้นวิกฤตขององค์กร โดยจัดทำเป็นเอกสารประกอบการนำเสนอวิสัยทัศน์ เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณา

2.3 มีวิสัยทัศน์ทางด้านการเงินการธนาคาร เศรษฐกิจ และเศรษฐกิจชุมชน มีความรอบรู้ ความสามารถสูงในการตัดสินใจ การสั่งการ การแก้ปัญหา และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งการพัฒนา และนำองค์กรไปในทิศทาง และเป้าหมายตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากภาครัฐ

2.4 มีภาวะความเป็นผู้นำสูง มีความสามารถในการบริหารจัดการที่ดี และมีคุณธรรมจริยธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต

2.5 มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศอื่น ๆ เพื่อการฟัง พูด อ่าน เขียน และติดต่อสื่อสารได้

  1. คุณวุฒิการศึกษา

ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี จากสถาบันการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนรับรอง