InnovestX เล็งไอพีโอตลาดหุ้นปี’68 ลุยดีล M&A รายได้โตปีละ 10%

อินโนเวสท์ เอกซ์ InnovestX

InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่มยานแม่ SCBX กางแผนธุรกิจครั้งใหญ่เล็งเข้าไอพีโอตลาดหุ้นไทยปี 2568 เป้ารายได้โตปีละ 10% ขึ้นไป ฐานลูกค้า 4-5 ล้านคน เปิดตัวซูเปอร์แอปฯรายแรกในไทยรวมทุกสินทรัพย์ ประเดิมซื้อขาย 21 เหรียญคริปโต ฟรีค่าธรรมเนียมถึงสิ้นปี ลุยทำดีล M&A ระดับพันล้าน

วันที่ 7 ตุลาคม 2565 ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ InnovestX เปิดเผยว่า การรีแบรนด์ดิ้งจากบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBS ในฐานะโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้น มาเป็นบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ InnovestX อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์แนวคิด “Future of Finance Reimagined” ต่อยอดการบริการด้านการลงทุนแบบดั้งเดิม และเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร

ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์
ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์

ซึ่งตอนนี้ถือเป็นบริษัทหลักทรัพย์เดียวในประเทศที่ได้รับใบอนุญาตนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ใบอนุญาตซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์อื่น ๆ โดยล่าสุดได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ภายใต้ “InnovestX App” ซูเปอร์แอปแรกในไทยที่รวมทุกสินทรัพย์ในแอปเดียวครอบคลุมทั้งหุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, กองทุนรวม, ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการเปิดบัญชีเพียงครั้งเดียว ยืนยันตัวตน (KYC) มีความปลอดภัยในมาตรฐานระดับเดียวกับสถาบันการเงิน (Bank Grade) โดยจะเปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 65

ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือปี 2568 จะขยายฐานลูกค้าผู้ใช้งานรวม 4-5 ล้านคน จากที่มีฐานลูกค้าหลักทรัพย์อยู่หลักแสนราย และเป็นท็อป 5 ในธุรกิจด้านการลงทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลในอาเซียน ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดหวังปีแรกจะขยายฐานลูกค้าในไทยใกล้เคียงระดับ 2 ล้านคน และคาดหวังการเติบโตของรายได้ปีละ 10% ขึ้นไป โดยมีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายคริปโตประมาณ 20-30% ของรายได้รวม

ดร.อารักษ์ กล่าวต่อว่า โดยตามแผนการโตในระดับภูมิภาคจะสามารถโตได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่เริ่มต้นจากศูนย์ด้วยการขอใบอนุญาตเปิดธุรกิจ หรือไปจับมือพันธมิตรท้องถิ่น หรือการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งการทำ M&A อาจจะเป็นทางที่สำคัญให้บริษัทไปสู่แผนการโตที่เหมาะสมกับการเข้าตลาดหุ้น โดยการใช้งบลงทุนทำดีล M&A ต้องใช้กระแสเงินสดเป็นมูลค่าหลักพันล้านบาท แต่งบนั้นต้องเป็นงบพิเศษที่ต้องขออนุมัติจากบริษัทแม่ บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB)

“ผมเล็งเห็นการโตจะมาจาก 1.ธุรกิจใหม่ (ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล) ซึ่งก็สนใจจะขอใบอนุญาตศูนย์รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล (Custodian) 2.มาจากการขยายการโตจากฐานลูกค้าปัจจุบัน 3.การต่อยอดฐานลูกค้านักลงทุนสถาบัน จากปัจจุบันยังมาจากฐานนักลงทุนรายย่อยเป็นหลัก และ 4.การขยายธุรกิจในต่างประเทศช่วง 2-3 ปีข้างหน้า”

“ตลาดคริปโตช่วงนี้ฝุ่นเริ่มตลบ เหมือนอากาศเริ่มดีขึ้น เปรียบเหมือนต้นไม้ที่ดีจะเริ่มออกดอก ส่วนต้นที่ไม่ดีจะตายไป ฉะนั้นจึงเป็นช่วงการปรับฐาน เชื่อว่าจะทำให้คริปโตจะเป็นสินทรัพย์ที่ดีในระยะยาว ที่คนจะเริ่มพูดคุยถึงปัจจัยพื้นฐานและการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ประโยชน์มากขึ้น”

สำหรับเฟสแรกการให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตเคอร์เรนซีบนแอปพลิเคชั่น InnovestX มีจำนวน 21 เหรียญ คัดเลือกเหรียญที่มีคุณภาพซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหรียญในต่างประเทศ หลังจากนั้นจะเพิ่มอีก 30 เหรียญเข้ามาในเร็ว ๆ นี้ โดยยังมีสภาพคล่องสูง (Liquidity) ด้วยการเชื่อมต่อกับศูนย์ซื้อขาย (Exchange) พันธมิตร 3 รายคือ 1.FTX 2.Coinbase และ 3.Bitkub

และเพื่อให้ทุกคนสามารถเริ่มลงทุนได้ง่ายขึ้น InnovestX ได้ส่งแคมเปญ “Zero Gravity” ครั้งแรกของการปลดล็อกค่าธรรมเนียม ให้นักลงทุนทะยานสู่จักรวาลการลงทุนแบบไร้ขีดจำกัด โดยสามารถเปิดบัญชีฟรี ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียมบริหารพอร์ตกับบริการ Intelligent Portfolios และฟรีค่าธรรมเนียมลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 100,000 บาท และค่าสมัครบริการยื่นแบบภาษี W8-BEN และฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จนถึงสิ้นปี 2565