SCBAM เปิดขายกองทุนหุ้น Small Cap สหรัฐ 12-19 ต.ค.นี้

หุ้น US กองทุนรวม กองทุนหุ้นสหรัฐ

บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดขายกองทุน “หุ้นยูเอสสมอลแคปพาสซีฟ” ลงทุนหุ้น Small cap สหรัฐ หลังโตสวนกระแส แนะลงทุนเพิ่มความหลากหลายและกระจายความเสี่ยง เสนอขายครั้งแรก 12-19 ต.ค. 65

วันที่ 12 ตุลาคม 2565 นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า สหรัฐยังเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจของนักลงทุน แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ในระยะยาวเชื่อมั่นว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะขยายตัวได้ดี

และคาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวในปี 2567 จากที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed มีโอกาสกลับมาผ่อนคลายนโยบายการเงิน และปล่อยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เต็มศักยภาพ หลังจากที่คลายความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อและปัญหาห่วงโซ่อุปทานคลี่คลาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทสหรัฐขนาดเล็ก จึงมองว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการช่วยสร้างผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน SCBAM

SCBAM จึงเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอสสมอลแคปพาสซีฟ” หรือ SCBRS2000 ที่มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Russell 2000 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นขนาดเล็กในสหรัฐ กว่า 2,000 บริษัท ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม และยังมีมูลค่าพื้นฐานที่น่าสนใจเข้าลงทุน โดยจะเริ่มเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 12-19 ตุลาคม 2565 นี้

กองทุน SCBRS2000 เน้นลงทุนในกองทุนหลัก คือ iShares Russell 2000 ETF เป็นกองทุน ETF ที่บริหารโดย BlackRock Fund Advisors มีนโยบายลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดเล็กที่เป็นตัวแทนของหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Russell 2000 มีการกระจายสัดส่วนการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม

โดยกองทุน SCBRS2000 มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB ไม่น้อยกว่า 90% และมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี Russell 2000 ซึ่งการเสนอขายกองทุนครั้งนี้ SCBAM แบ่งชนิดการลงทุนเป็น 2 ประเภท คือ (1) กองทุนชนิดสะสมมูลค่า หรือ SCBRS2000(A) และ (2) กองทุนชนิดเพื่อการออม หรือ SCBRS2000(SSF) เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี

“ทั้งนี้ จากข้อมูลทางสถิติ พบว่า ดัชนี Russell 2000 มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่โดดเด่นกว่าดัชนีหุ้นสหรัฐโดยรวม และเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีสัญญาณเชิงบวกที่สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้านตลาดแรงงานและการใช้จ่ายของผู้บริโภค จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนกันยายน ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน และตัวเลขอัตราการการว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 29 เดือน

จึงมองเป็นจังหวะเข้าลงทุนเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะกลาง-ยาว จากเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความแข็งแรงอยู่มาก อีกทั้งเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตลงทุนควบคู่ไปกับการลงทุนในหุ้นกลุ่มอื่น เพื่อรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในระยะยาวได้” นางนันท์มนัสกล่าว