ศุลกากรเผยปีงบ’65 จับลักลอบนำเข้า-ส่งออกกว่า 2.7 หมื่นคดี มูลค่า 3.7 พันล้าน

หมู-ออนไลน์

ศุลกากรเผยปีงบ’65 จับลักลอบนำเข้า-ส่งออกผิดกฎหมาย 2.7 หมื่นคดี มูลค่า 3.7 พันล้านบาท พร้อมลุยจับหมูเถื่อน ป้องกันโรคระบาด

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรมีนโยบายในการเร่งรัดปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงการนำเข้าและส่งออกสินค้า จากราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงให้หน่วยงานในสังกัดพร้อมหน่วยปฏิบัติการวางแผนตรวจค้นจับกุมอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อสกัดกั้น ป้องกัน และปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร น้ำมัน ยาเสพติด IPRs และสินค้าละเมิดอนุสัญญา CITES โดยสืบสวนหาข่าวและออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ ตรวจค้นรถบรรทุก โกดัง แหล่งจำหน่าย สถานที่เก็บรักษาที่เชื่อได้ว่ามีของผิดกฎหมายเก็บซุกซ่อนอยู่

อีกทั้งยังมีแผนการป้องกันและปราบปรามสินค้าดังกล่าวในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้า นอกจากนี้ มีการบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทหาร กอ.รมน. ป.ป.ส. บช.ปส. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่าง ๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration: DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวระหว่างกัน

สำหรับในปีงบประมาณ 2565 (เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564-กันยายน พ.ศ. 2565) กรมได้ตรวจพบการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรทั้งหมด 27,465 คดี คิดเป็นมูลค่า 3,742.1 ล้านบาท โดยในเดือนกันยายน 2565 มีจำนวน 3,558 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 245.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังให้ความสำคัญกับการจับกุมการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าเนื้อหมูที่วางขายในท้องตลาดมีความปลอดภัยจากสารปนเปื้อนและเชื้อ ASF อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้เกษตรกรสามารถผลิตสุกรไทยออกจำหน่ายและผลักดันให้กลไกทางการตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

“โดยสถิติการจับกุมการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งหมด 9 คดี รวม 153,800 กิโลกรัม มูลค่า 31.44 ล้านบาท”