เบกาโกร ลงสนามเทรด SET วันแรกพรุ่งนี้ 2 พ.ย. ด้วยราคาหุ้น 40 บาท

ตลาดหุ้นไทย-ตลาดหลักทรัพย์ฯ

บมจ.เบทาโกร พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2 พ.ย.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ (IPO) 77,392 ล้านบาท และราคาหุ้นที่ 40 บาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “BTG”

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ.เบทาโกร เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในตลาดทุนไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “BTG” ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นี้

แมนพงศ์ เสนาณรงค์

BTG ประกอบธุรกิจเกษตรและอาหารครบวงจรครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้แก่ การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ การทำฟาร์มเชิงพาณิชย์ การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และปลา ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน

รวมไปถึงอาหารสัตว์เลี้ยง จำหน่ายในประเทศและต่างประเทศกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป และไส้กรอก ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เช่น S-Pure, Betagro, ITOHAM และแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง เช่น Perfecta, DOG n Joy และ CAT n Joy เป็นต้น

BTG มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้น 9,674 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป 434.8 ล้านหุ้น และการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน 65.2 ล้านหุ้น มีกำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 10-17 ตุลาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 40 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 17,392 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 77,392 ล้านบาท

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) 21.2 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการของบริษัท ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

ด้านนายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบทาโกร เปิดเผยว่าบริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ BTG จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากลที่ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารในราคาที่เป็นธรรม

โดยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ประกอบกับประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 55 ปี และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจ จะเสริมให้บริษัทมีศักยภาพการเติบโตและการแข่งขันอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศ

โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปเป็นทุนในการขยายธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต ตลอดจนชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานของบริษัท

BTG มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน กระแสเงินสด แผนการลงทุน รวมทั้งความจำเป็นและความเหมาะสมอื่น ๆ ตามความเห็นสมควรคณะกรรมการบริษัท


ทั้งนี้ หลัง IPO จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท เบทาโกร โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 36.18% TAE HK Investment Limited ถือหุ้น 20.67% และกลุ่มครอบครัวแต้ไพสิฐพงษ์ 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว