THCOM โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ก่อนถูกเทกโอเวอร์กิจการ

ไทยคม

THCOM แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2565 มีรายได้จากการขาย-ให้บริการ 762 ล้านบาท กำไรสุทธิ 121 ล้านบาท ขณะที่ “GULF” ประกาศเทกโอเวอร์ “ไทยคม” หุ้นละ 9.92 บาท

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 3/2565 เป็นจำนวน 762 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ 737 ล้านบาทในไตรมาส 2/2565 (QOQ) เนื่องมาจากรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้นจากลูกค้าต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2564 (YOY) รายได้จากการขายและการให้บริการลดลง 17.7% จาก 925 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของลูกค้าบรอดคาสต์ในประเทศ ประกอบกับการขายโครงการซึ่งเป็นการให้บริการแบบครั้งคราว (occasional service) ที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3/2564

ในช่วงไตรมาสที่ 3/2565 บริษัทมีกำไรจากธุรกิจหลัก (กำไรจากการดำเนินงานซึ่งไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจากการร่วมค้า และรายการพิเศษอื่น) อยู่ที่ 190 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2565 (QoQ) ที่ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 950.1% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2564 (YOY) จำนวน 18 ล้านบาท เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างต้นทุนจากการสิ้นสุดลงของสัมปทานดาวเทียม ซึ่งทำให้ต้นทุนค่าเสื่อมราคาดาวเทียมและต้นทุนค่าสัมปทานลดลง

บริษัทมีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2565 จำนวน 121 ล้านบาท ลดลง 60.9% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2565 (QOQ) ที่ 309 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการบันทึกการด้อยค่าของดาวเทียมในไตรมาสที่ 3/2565 เป็นจำนวน 259 ล้านบาท สืบเนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมด้านความต้องการบริการบรอดคาสต์โดยทั่วไปที่ลดลง ประกอบกับความล่าช้าในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมในต่างประเทศจากกระบวนการที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้การขายช่องสัญญาณล่าช้ากว่าแผนธุรกิจเดิม

ในขณะที่ไตรมาส 3/2565 บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวน 314 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 36.8% จาก 229 ล้านบาทในไตรมาส 2/2565 (QOQ) จากค่าเงินบาทไทยที่ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากบริษัทมีสินทรัพย์ที่เป็นเงินสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมากกว่าหนี้สิน และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/2564 (YOY) กำไรสุทธิในไตรมาสปัจจุบันปรับตัวลดลง 17.0% จาก 146 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากการด้อยค่าของดาวเทียมดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (7 พ.ย. 65) มีมติอนุมัติให้บริษัทและ/หรือ บริษัท กัลฟ์ เวนเชอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (รวมเรียกกลุ่มบริษัท) เข้าซื้อหุ้นสามัญ THCOM จากบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH และซื้อหุ้นสามัญส่วนที่เหลือทั้งหมดของ THCOM โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ THCOM และ/หรือโดยการซื้อขายหุ้นสามัญ THCOM ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาหุ้นละ 9.92 บาท