กรุงศรีฯ ปลื้ม สินเชื่อลีสซิ่ง-ส่วนบุคคล ติด 1 ใน 3 ท็อปธุรกิจในเวียงจันทน์

ไพโรจน์ ชื่นครุฑ
ไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชูบริการ “ลีสซิ่ง-สินเชื่อส่วนบุคล” เรือธงบุกตลาด สปป.ลาว ภายใต้แบรนด์ “กรุงศรี ออโต้-กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์” หลังขึ้นเป็นผู้นำในเวียงจันทน์ และเป็น 1 ใน 3 อันดับท็อปธุรกิจด้านสินเชื่อระดับประเทศ พร้อมมองเศรษฐกิจลาวขยายตัว 3.2% หนุนธุรกิจโตต่อเนื่อง

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรีมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะขยายบริการและให้การสนับสนุนด้านการเงินทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ทันสมัยซึ่งตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและผู้ประกอบการในปัจจุบันได้จริง

สำหรับประเทศลาวเราได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินที่หลากหลาย นำโดยบริการด้านออโต้และคอนซูมเมอร์ที่เป็นผลิตภัณฑ์เรือธง ในขณะเดียวกันกรุงศรีเองก็กำลังขยับขยายในส่วนของบริการด้านสินเชื่อส่วนบุคคลอีกด้วย

“ด้วยความใกล้ชิดกับประเทศไทยและการเข้าถึงสื่อของไทย ทำให้ลูกค้าชาวลาวมีความคุ้นเคยกับแบรนด์ที่ได้รับความนิยมของกรุงศรีอย่างกรุงศรี ออโต้ และกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้คนเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของเรา โครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของลาวกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาการที่รุดหน้าอย่างรวดเร็ว และกรุงศรีเองก็มีความพร้อมที่จะมอบโซลูชันด้านการเงินที่เหมาะสมกับลูกค้าและธุรกิจที่กำลังเติบโต” นายไพโรจน์ กล่าวเสริม

นับตั้งแต่เปิดตัวในเวียงจันทน์เมื่อปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา กรุงศรีได้ขยายธุรกิจด้านการเงินสำหรับยานยนต์เพื่อให้ครอบคลุมใน 5 จังหวัดทั่วทั้งประเทศลาว รวมถึงการเพิ่มจำนวนดีลเลอร์จัดจำหน่ายรถใหม่ และการเพิ่มในส่วนของธุรกิจด้านรถบรรทุกแบบเต็มรูปแบบและธุรกิจฟลีทไว้ด้วย

โดยกรุงศรีได้เปิดตัวธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว และคาร์ ฟอร์ แคช (Car4Cash) ไปเมื่อปี 2562 ที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์เพื่อรีไฟแนนซ์แก่เจ้าของรถยนต์ ก่อนที่จะขยายธุรกิจไปยังสินเชื่อสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ในปี 2563 และในปีเดียวกันนี้ยังได้เปิดตัวบริการด้านสินเชื่อส่วนบุคคล “Krungsri Money Laos” อีกด้วย

แม้ว่าปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากความตึงเครียดของสถานการณ์การเงินโลกและการขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีมีการคาดการณ์ว่าจีดีพีของประเทศลาวจะสามารถฟื้นกลับมาได้ที่ 3.2% ในปี 2565 อันเนื่องมาจากการกลับมาเปิดประเทศ ซึ่งมีการคาดหมายว่ากิจกรรมด้านการท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการลงทุนจากฝั่งประเทศจีนด้วย

โดยไฮไลต์อยู่ที่โครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวที่เปิดให้บริการไปเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวซึ่งคิดเป็น 5% ของจีดีพีในปี 2563 เช่นเดียวกับการเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศจีนและลาว ทั้งนี้ ประเทศลาวให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นที่ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่มีแรงเสริมจากการเปิดโครงการท่าเรือบกท่านาแล้งเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ช่วยเปิดประตูเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินรถไฟในเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคนี้ด้วย

“ในฐานะที่เป็นผู้นำทั้งด้านธนาคารพาณิชย์และธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยเรารู้สึกชื่นใจกับความสำเร็จในประเทศลาวที่ผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านการเงินของกรุงศรีก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาด อันแสดงให้เห็นว่าเราสามารถมอบบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าชาวลาวได้เป็นอย่างดี จากนี้ไปเรายังไม่หยุดนิ่งในการขยายบริการของให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านการเงินสำหรับประเทศลาวเศรษฐกิจกำลังเติบโตและประเทศกำลังพัฒนาต่อไปข้างหน้า”