ข่าวดี! ซิตี้แบงก์ คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้โตสุดในรอบ 8 ปี – ธุรกิจเทคโนโลยี AI สุดมาแรง!

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย จัดงานแถลงเผยแนวโน้มเศรษฐกิจโลกปี 2561 โดยภาพรวมยังคงการเติบโตที่ 3.4% สูงสุดในรอบ 8 ปี จากผลกระทบด้านบวกในหลายภูมิภาคทั่วโลก สำหรับการลงทุนที่น่าสนใจนักวิเคราะห์มองว่ากลุ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษ หรือ AI จะเป็นธีมการลงทุนที่น่าสนใจแห่งปี ขณะที่เศรษฐกิจไทย คาดว่าจะขยายตัว 3.8% โดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจส่งออก

นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เผยมุมมองการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ถึงตลาดเศรษฐกิจ และการลงทุนโลกว่า ในปี 2561 เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโต 3.4% สูงสุดในรอบ 8 ปีจากผลกระทบด้านบวกในหลายภูมิภาคทั่วโลก อาทิ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการลดภาษีในประเทศสหรัฐอเมริกา สภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวตามรอบระยะเวลาในยุโรป การปรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจีน และกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้ามาในกลุ่มตลาดเกิดใหม่

ขณะที่อัตราการเติบโตของผลกำไรทั่วโลกในปี 2561 คาดไว้ที่ 9% โดยเฉพาะโอกาสด้านบวกในสินทรัพย์ประเภทหุ้น ซึ่งนักวิเคราะห์จากซิตี้แบงก์มองบวกต่อหุ้นวัฏจักร พวกกลุ่มวัสดุการผลิต กลุ่มการเงิน และกลุ่มเทคโนโลยี โดยให้น้ำหนักในภูมิภาคตลาดเกิดใหม่อย่าง ยุโรป และญี่ปุ่น

ด้านเศรษฐกิจไทย นักวิเคราะห์ซิตี้มองว่าจะขยายตัวที่ 3.8% จากปัจจัยธุรกิจส่งออก ที่มีการปรับลดเล็กน้อย แต่ความต้องการของตลาดในประเทศจะปรับตัวเพิ่มจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และอัตรารายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้นนั้น คาดว่าผลกำไรจากกลุ่มธุรกิจ ธนาคาร สุขภาพ และสินค้าบริโภคจะได้รับแรงหนุนให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายชรีคาน บัท หัวหน้าฝ่ายลงทุน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และภูมิภาคยุโรป ตะวันออกลาง และแอฟริกา ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวเสริมว่า แม้คาดว่าปี 2561 จะเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุน จากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น แต่ตลาดยังคงมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องความผันผวนในตลาดหุ้น และความเสี่ยงทางด้านการเมือง อย่างปีที่ผ่านมา มีเรื่องผู้นำอเมริกา ฝั่งยุโรปมี เบร็กซิท การเลือกตั้งฝรั่งเศส ส่วนปีนี้เลือกตั้งอิตาลี หรือปมความขัดแย้งเกาหลีเหนือ และในโซนตะวันออกกลาง ยังคงมีความเสี่ยง ไม่นิ่ง เรื่องการเมืองเหล่านี้จึงไม่ควรมองข้าม ซึ่งทางนักวิเคราะห์แนะนำว่า นักลงทุนควรรักษาผลกำไร โดยปรับสมดุลและกระจายพอร์ตการลงทุนในกองทุนผสม

สำหรับการลงทุน นักวิเคราะห์ซิตี้มองว่า กลุ่มที่มาแรงและน่าสนใจลงทุนในปี 2561 คือ “เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI โดยอ้างอิงจากตัวเลขประมาณการของ IDC ซึ่งขนาดของตลาดเทคโนโลยี AI จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสม 57% ซึ่งเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการผลิตจนเป็นแนวโน้มที่สำคัญของโลก โดยกลุ่มธุรกิจในเซกเตอร์ แบงก์กิ้ง ผู้ผลิตสินค้า ค้าปลีก เฮลท์แคร์ ได้ลงทุนกับ AI สูงสุดในปี 59 ด้วยสัดส่วนหครึ่งหนึ่งของมูลค่าการลงทุนรวม ซึ่งในปีที่ผ่านมา ตลาดมีมูลค่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตถึง 47 พันล้านเหรียญสหรัฐได้ในปี 2563

ในส่วนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น น่าจะผ่านจุดสูงสุดและเข้าสู่ช่วงขาลงตามรอบระยะเวลา นักวิเคราะห์ซิตี้มองว่า เงินยูโรจะแข็งขึ้นในระยะปานกลาง ผลจากปัจจัยเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เงินทุนที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และส่วนเกินจากบัญชีเดินสะพัดจำนวนมาก ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ จะช่วยให้สกุลเงินของตลาดใหม่ในเอเชียมีความมั่นคง และคาดว่า เงินริงกิตของมาเลเซียจะเติบโตสูงสุด

หลังแสดงภาพรวมเศรษฐกิจโลก ทางซิตี้แบงก์ เปิดเผยแผนการทำธุรกิจในปีนี้ ว่ายังมุ่งเน้นหาทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายให้กับลูกค้าผ่านความร่วมมือกับ 9 พันธมิตรกองทุนรวมด้านต่างประเทศ ให้ลูกค้าสามารถกระจายการลงทุน มีทางเลือกการลงทุนและการสร้างผลตอบแทนที่ต้องการได้ นอกจากนี้ทางธนาคารยังมีทีมงานแนะนำให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบกองทุนรวมที่ลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งทีมงานจะจัดสรรกองทุนที่น่าสนใจและติดอันดับให้ลูกค้าเลือกซื้อ

พร้อมกับนำเสนอตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงระดับโลกให้กับลูกค้า ภาพรวมหุ้นกู้ในต่างประเทศที่มีความเสี่ยงใกล้ 3% กับชื่อที่มีความสบายใจ ไม่ต้องกังวลกับการผันผวนของตลาด

อีกทั้งปีนี้ยังเน้นขยาย ซิตี้โกล์ด ในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ที่มียอดรวมเงินฝาก หรือเงินลงทุนกับซิตี้แบงก์ตั้งแต่ 5 ล้านขึ้นไป ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการต่างๆ ทั้งการวางแผนเป้าหมายการลงทุน การนำข่าวสารเศรษฐกิจ โอกาสการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจและวางแผนได้อย่างแม่นยำ และสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์สำหรับนักเดินทาง ด้วยรถลีมูซีนบริการหากเดินทางไปยังยุโรป หรืออเมริกา