SET ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,666 จุด ระวังแรงขายเก็งกำไรก่อนหยุดยาว

อินโนเวสท์ เอกซ์ InnovestX

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) ปรับขึ้นโดดเด่น และมีแนวโน้มรอทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,666 จุด ระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นก่อนหยุดยาว หุ้นเด่นวันนี้ KTB,BDMS

วันที่ 30 ธันวาคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมินดัชนีตลาดไทย (SET INDEX) ปรับขึ้นโดดเด่น และมีแนวโน้มรอทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,666 จุด และถัดไปแถวจุดสูงเดิมที่ทำไว้เมื่อ 3 เดือนก่อน บริเวณ 1,672 จุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้ายของปี ก่อนหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ดังนั้นให้ระวังแรงขายทำกำไรในระยะสั้นในวันนี้ ขณะที่ภาพรวม มองดัชนีมีแนวโน้มไต่ระดับได้ต่อ หลังกลับมาเปิดทำการใหม่ในปีหน้า

ประเด็นสำคัญวันนี้

• สหรัฐออกมาตรการนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าประเทศต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ มีผล 5 ม.ค. 66 เช่นเดียวกับอิตาลีเรียกร้องให้ EU ดำเนินมาตรการทดสอบโควิด-19 กับผู้เดินทางมาจากจีน ขณะที่ออสเตรเลียระบุยังไม่เปลี่ยนแปลงการเข้าเมืองของผู้เดินทางจากจีน แม้หลายประเทศเริ่มมีการให้ทดสอบโควิด-19 แล้วก็ตาม

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 9 พันราย อยู่ที่ 2.25 แสนราย เป็นไปตามคาด

• นายกฯหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 รวมถึงมาตรการรับมือกรณีที่จีนเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค. 66

• กกพ.มีมติปรับลดค่า Ft ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม หลังจาก PTT และ กฟผ.ปรับลดสมมุติฐานราคาก๊าซ โดยค่า Ft ใหม่งวด ม.ค.-เม.ย. 66 อยู่ที่ 154.92 สต./หน่วย จากเดิมที่ 190.44 สต./หน่วย

• กระทรวงการคลัง ระบุเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย. 2565 ยังสดใส หนุนจากการขยายตัวภาคท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเพิ่มขึ้นถึง 1,815.9% YOY ขณะที่ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคขยายตัว 6 เดือนติดต่อกัน

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,666 จุด จากแรง ซื้อของต่างชาติ อย่างไรก็ตามอาจระมัดระวังแรงขาย ก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ กลยุทธ์การลงทุนยังคงเป็น “Selective Buy” ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

หุ้นเด่นวันนี้ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ แนะนำ

– KTB ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น มีความเสี่ยงด้านคุณภาพ สินทรัพย์ต่ำคาดผลประกอบการไตรมาส 4/65 เพิ่มแข็งแกร่ง YOY (ทรงตัว QOQ) ปรับประมาณการกำไรปี 2565 และปี 2566 เพิ่มขึ้น 3% โดยมีสาเหตุมาจากการปรับประมาณการ credit cost ลดลง การเติบโตของสินเชื่อ ธุรกิจขนาดใหญ่จะเร่งขึ้น NIM จะปรับตัวดีขึ้น รายได้ค่าธรรมเนียมจะสูงขึ้น

– BDMS ไตรมาส 4/65 คาดกำไรเพิ่มขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากบริการที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 ที่เติบโตเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งมีการนัดหมายเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากไทยกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง