กรุงไทย คาดส่งออกปี’66 โต 0.7% ชี้ ตัวเลข ธ.ค.-14.6% หดตัวเดือนที่ 3 

กรุงไทย
แฟ้มภาพ

Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เผยมูลค่าส่งออกเดือน ธ.ค. ติดลบ 14.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 มากกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ -11.5% เหตุผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนแอ คาดส่งออกปี’65 ขยายตัวที่ 5.5% พร้อมประเมินปี’66 เติบโต 0.7% แรงหนุนจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 

วันที่ 25 มกราคม 2566 นายชนม์นิธิศ ไชยสิงห์ทอง นักวิเคราะห์ Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า มูลค่าส่งออกเดือน ธ.ค. อยู่ที่ 21,719 ล้านดอลลาร์ หดตัวต่อเนื่องที่ 14.6% YOY จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 6.0% YOY โดยการส่งออกสินค้าทุกหมวดหดตัว ได้แก่ สินค้าเกษตรกรรม สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม

จากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนแอ และผลของฐานเดือน ธ.ค. ในปี 2564 ที่สูง สำหรับการส่งออกทองคำเดือนนี้หดตัวต่อเนื่องที่ -80.5% ทำให้เมื่อหักทองคำแล้ว มูลค่าส่งออกเดือนนี้หดตัว 13.9% YOY ทั้งนี้ การส่งออกทั้งปี 2565 ขยายตัวที่ 5.5%

นายชนม์นิธิศ ไชยสิงห์ทอง
นายชนม์นิธิศ ไชยสิงห์ทอง นักวิเคราะห์ Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย

ส่งออกรายสินค้าส่วนใหญ่หดตัวต่อเนื่อง

1.การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ -15.7% YOY หดตัวมากขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัว 5.1% YOY จากการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ (-17.1%) และอัญมณีและเครื่องประดับ (-12.4%) ที่กลับมาหดตัว สินค้าที่เกี่ยวเนื่องจากน้ำมัน (-25.7%) หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง

สินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ (-24.3%) หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อย่างไรก็ดี สินค้าบางชนิดยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+65.6%) และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด (+83.7%) รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ (+8.1%) เป็นต้น สำหรับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ปี 2565 ขยายตัว 4.4%

2.การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ -11.2% YOY หดตัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่หดตัว 2.0% YOY โดยผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (-12.4%) และน้ำตาลทราย (-45.4%) กลับมาหดตัว ขณะที่การส่งออกข้าว (-4.1%) ยางพารา (-47.7%) และผลไม้กระป๋องและแปรรูป (-20.5%) หดตัวต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี สินค้าบางชนิดยังขยายตัวดี ได้แก่ ผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/แห้ง (+21.6%) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (+1.5%) และไก่สดแช่เย็น/แช่แข็ง (+22.8%) เป็นต้น สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ปี 2565 ขยายตัว 8.8%

ส่งออกรายตลาดส่วนใหญ่หดตัว

สหรัฐ : กลับมาหดตัวที่ -3.9% YOY โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ เป็นต้น ขณะที่สินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องโทรสารและโทรศัพท์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด เป็นต้น (ส่งออกปี 2565 ขยายตัว 13.4%)

จีน : หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ที่ -20.8% YOY โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ ผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/แห้ง และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น (ส่งออกปี 2565 หดตัว -7.7%)

ญี่ปุ่น : หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ที่ -13.7% YOY โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เคมีภัณฑ์ ไก่แปรรูป และเครื่องโทรสารและโทรศัพท์ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เป็นต้น (ส่งออกปี 2565 หดตัว -1.3%)

EU27 : กลับมาหดตัวที่ -4.9% YOY โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นต้น (ส่งออกปี 2565 ขยายตัว 5.2%)

ASEAN5 : หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ -24.2% YOY โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ขณะที่สินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ น้ำมันดิบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น (ส่งออกปี 2565 ขยายตัว 9.5%)

มูลค่าการนำเข้าเดือน ธ.ค.อยู่ที่ 22,753 ล้านดอลลาร์ กลับมาหดตัว 12.0% YOY จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 5.6% YOY จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง โดยการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงกลับมาหดตัว

(-13.2% YOY) ขณะที่การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (-17.1% YOY) สินค้าทุน (-8.6% YOY) สินค้าอุปโภคบริโภค

(-7.5% YOY) หดตัวต่อเนื่อง การนำเข้าปี 2565 ขยายตัว 13.6% ด้านดุลการค้าเดือน ธ.ค. ขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ที่ระดับ -1,034 ล้านดอลลาร์ โดยดุลการค้าปี 2565 ขาดดุล -16,123 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ Krungthai COMPASS ประเมินมูลค่าการส่งออกในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตได้ที่ 0.7% คาดการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคของจีนจะช่วยสนับสนุนภาคการผลิตและการส่งออกในระยะข้างหน้าให้เติบโตได้ หลังจากทางการจีนผ่อนคลายมาตรการ Zero COVID ในเดือนมกราคม 2566 ส่งผลให้แนวโน้มการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศของจีนจะทยอยฟื้นตัว

และภาคการผลิตของจีนที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติจะช่วยให้แนวโน้มปัญหา supply chain disruption คลี่คลายมากขึ้น ซึ่งคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน

ภาพรวมการค้า
ภาพรวมการค้าเดิอน ธันวาคม 2565
การส่งออก
การส่งออกไปยังตลาดหลัก เดือนธันวาคม 2565
อัตราการขยายตัวของปริมาณการส่งออก
อัตราการขยายตัวของปริมาณการส่งออก และราคาส่งออก