บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท หรือ Kubix เผยได้ยื่นไถ่ถอนได้ก่อนกำหนด พร้อมจ่ายเงินต้น-ผลตอบแทน 2.99% ต่อปีของมูลค่าเงินลงทุน ครบถ้วนให้ผู้ถือโทเค็น “DESTINY TOKEN” จากภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” จำนวน 16,087 โทเค็น มูลค่ากว่า 265 ล้านบาท หลังบริษัท สเปเชียล เดสทินี ได้ทำการยื่นไถ่ถอนได้ก่อนกำหนด เมื่อ 1 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมเตรียมเปิดโครงการใหม่ภายในปีนี้
วันที่ 3 มีนาคม 2566 นางสาวอภิญญา เรืองทวีคูณ Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด (Kubix) เปิดเผยว่า DESTINY TOKEN เป็นโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนในรูปแบบโปรเจ็กต์ (Project-based Investment Token) โครงการแรกของไทย ในการระดมทุนเพื่อสร้างภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” ออกเสนอขายจำนวน 16,087 โทเค็น มูลค่ากว่า 265 ล้านบาท
โดยมอบผลตอบแทนให้นักลงทุนทั้งในรูปแบบอัตราดอกเบี้ยและสิทธิพิเศษมากมายจากภาพยนตร์ ซึ่งหลังจากที่ปิดการขายโทเค็นไปเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2565 ภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ มีการออกฉายและทำรายได้ทั่วประเทศตามรายงานจากเว็บไซต์ Thailand Box Office ทั้งสิ้นถึง 392.73 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด ได้ใช้สิทธิไถ่ถอนโทเค็นดิจิทัลก่อนกำหนด และคืนเงินร่วมลงทุนพร้อมผลตอบแทนแก่ผู้ถือโทเค็น 2.99% ต่อปีของมูลค่าเงินลงทุน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 โดยมีการคำนวณผลตอบแทนต่อปีตามจำนวนวันของโครงการ 246 วัน ผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผู้ถือโทเค็นได้แจ้งไว้ในขั้นตอนการจองซื้อกับทาง Kubix ถือเป็นการปิดโครงการที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
DESTINY TOKEN นับว่าเป็นโครงการนำร่องการระดมทุนผ่านโทเคนดิจิทัลโครงการแรกของประเทศไทย โดย Kubix ทำหน้าที่ ICO Portal ให้กับทางบริษัท สเปเชียล เดสทินี ในการออกแบบผลิตภัณฑ์การลงทุนที่แปลกใหม่และเข้าใจง่าย เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ แก่นักลงทุน ซึ่งในต่างประเทศมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2573 ตลาด Tokenized Asset ทั่วโลกจะเติบโตและมีสัดส่วนสูงถึง 10% ของจีดีพีโลก หรือสูงถึง 16.1 ล้านล้านดอลลาร์
ทำให้บริษัทและสถาบันด้านการลงทุนชั้นนำหลายแห่งต่างสนใจศึกษาและมีการลงทุนใน Tokenized Asset ในหลายอุตสาหกรรม และในแง่กฎหมายของหลายประเทศได้มีการจัดให้ Investment Token เป็นหนึ่งในประเภทสินทรัพย์การลงทุน เทียบเท่าผลิตภัณฑ์การลงทุนในตลาดการเงินเดิมอย่างหุ้น ตราสารหนี้ หรือกอง REIT ถือได้ว่าเป็นอนาคตของตลาดการลงทุนที่หลายคนจับตามอง
สำหรับตลาดโทเค็นดิจิทัลในไทยยังใหม่และมีโอกาสเติบโตอีกมาก ในด้านกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังมีการปรับปรุงรายละเอียดทั้งในฝั่งของ Investment Token และ Utility Token ซึ่งมีการเปิด Hearing รับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ อยู่ในขณะนี้
โดยทิศทางที่น่าสนใจคือการผลักดันให้ Investment Token เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่นเดียวกับแนวทางในการกำกับดูแลในหลายประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งนักลงทุนและผู้ออกโทเคน โดยเฉพาะการมีหลักเกณฑ์ทางภาษีที่สามารถเทียบเคียงกับหลักทรัพย์
และในปีนี้ Kubix ยังคงตั้งเป้าเดินหน้าโครงการ ICO ใหม่ ๆ มีการให้คำปรึกษากับบริษัทที่สนใจจากหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมจับมือกับพันธมิตรและสถาบันการเงินการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดโทเค็นดิจิทัลในประเทศไทยต่อไป
นอกจากนี้ Kubix ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในโทเคนดิจิทัลให้แก่นักลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์และกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ตามคอนเซ็ปต์ “Invest Earn Experience”