กรุงศรีฯเปิดกลยุทธ์ 3P ลุยธุรกิจ SMEs โตพอร์ตสินเชื่อ 3.06 แสนล้าน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปิดแผนธุรกิจเอสเอ็มอีปี 2566 ตั้งเป้าโตสินเชื่อ 4% ยอดวงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท เดินกลยุทธ์ 3P ขับเคลื่อนลูกค้า มองหนี้เสียทยอยฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว คาดทั้งปีกดหนี้เสียไม่เกิน 5.45%

วันที่ 5 เมษายน 2566 นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในปี 2566 ขยายตัว 4% คิดเป็นยอดวงเงินปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ราว 1.3 หมื่นล้านบาท ภายในสิ้นปียอดสินเชื่อคงค้างจะอยู่ที่ 3.06 แสนล้านบาท จากปี 2565 สินเชื่อขยายตัวเกินเป้าหมายอยู่ที่ 5.4% ยอดคงค้างอยู่ที่ 2.96 แสนล้านบาท

ขณะที่ยอดการปล่อยสินเชื่อเพื่อการปรับตัว หรือ Transformation Loan มีลูกค้าเข้ามาขอใช้บริการต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมียอดวงเงินปล่อยไปแล้วกว่า 600 ล้านบาท และมีที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติอีก 1,600 ล้านบาท

               

อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น ธนาคารคาดว่าตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) น่าจะปรับดีขึ้นตามสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยธนาคารพยายามควบคุมให้อยู่ในระดับ 5.45% จากปีก่อนที่ทำได้ค่อนข้างดีและต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 6% มาอยู่ที่ 4.8% สะท้อนคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่ดีขึ้นตามลำดับ

นอกจากนี้ จากสถานการณ์ที่ดีขึ้น คาดว่าลูกค้าที่เข้าโครงการช่วยเหลือจะปรับลดลง ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการช่วยเหลือที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละราย เช่น การปรับโครงสร้างการชำระหนี้คืนตามยอดขายและกระแสเงินสด (Cash Flow) และการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือการยืดอายุการชำระหนี้ออกไป เป็นต้น โดย ณ สิ้นปี 2565 ธนาคารมีลูกค้าที่อยู่ในโครงการช่วยเหลือราว 7,600 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 7.5 หมื่นล้านบาท

“ปีนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยจะกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่าช่วงก่อนระบาดของโควิด-19 ดังนั้น เราน่าจะเห็นตัวเลขผู้ประกอบการที่เข้าโครงการรับความช่วยเหลือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะช่วงเปิดผ่าน รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงยังมองตัวเลขเอ็นพีแอลปีนี้ในระดับที่สูงกว่าปีก่อน”

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 2566 จะขับเคลื่อนธุรกิจเอสเอ็มอีภายใต้กลยุทธ์ “Make Life Simple with 3P” ผ่าน 3P ได้แก่ 1.Portfolio โดยเจาะลึกและจัดกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนขึ้น เพื่อให้สามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์มากขึ้น

2.Product โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการและช่วยพัฒนาธุรกิจให้เติบโตทันกระแสของโลก รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการแข่งขันที่สอดรับกับ New Normal ทั้งด้านกระแสดิจิทัลและด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยธนาคารมีสินเชื่อเพื่อการปรับเปลี่ยนในส่วนนี้ อาทิ Transformation Loan ให้กับลูกค้าในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เป็นต้น และ 3.Platform โดยรวบรวมบริการและนวัตกรรมทางการเงินต่าง ๆ มาไว้ใน Platform เดียว เพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

ปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีอยู่ที่ 4 หมื่นราย และลูกค้าที่ไม่ได้ใช้บริการสินเชื่อ แต่ทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มอื่นของธนาคาร เช่น การโอนเงิน หรือธุรกรรมเทรดไฟแนนซ์ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 4 แสนราย และลูกค้ามีหลายเซ็กเตอร์ แต่มีนิยามยอดขายสูงสุดไม่เกิน 1,000 ล้านบาท

“ในปี 2565 กรุงศรีฯได้ดำเนินนโยบายมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านมาตรการเชิงรุกต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้ออกแพลตฟอร์ม Krungsri Biz Online และ Krungsri I Pro เพื่อช่วยให้ลูกค้าเอสเอ็มอีปรับตัวเข้าสู่ระบบออนไลน์

โดยแพลตฟอร์ม Krungsri Biz Online มีจำนวนผู้ใช้ 98,000 ราย เติบโตถึง 109% รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินแบบครบวงจร ที่สำคัญยังเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจผ่านเครือข่าย MUFG ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เราสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผ่านมา”