CIMBT ชี้สหรัฐขึ้นภาษีเหล็กเสี่ยงกระตุ้นสงครามการค้า

ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ชี้กรณีสหรัฐขึ้นภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม ทำให้ตลาดกังวลว่าจะมีการออกนโยบายตอบโต้ระหว่างประเทศ อาจเกิดสงครามการค้า ซึ่งไทยอาจได้รับผลกระทบภาคการส่งออก แต่ในภาพรวมยังได้รับผลกระทบน้อย เพราะไทยเป็นประเทศนำเข้าเหล็กมากกว่าจึงไม่เสียประโยชน์มากนัก อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีความกังวลว่า สหรัฐอาจขยายนโยบายภาษีไปยังสินค้าประเภทอื่น ด้านสำนักวิจัยซีไอเอ็มบีไทย เตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในเดือนมี.ค. ขอรอดูตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.พ.ก่อน

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยกล่าวว่า กรณีสหรัฐฯออกนโยบายปรับขึ้นภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลว่าจะเกิดสงครามการค้า ที่แต่ละประเทศต่างออกนโยบายทางภาษีมาตอบโต้ ทำให้เกิดความผันผวนในโลกมากขึ้น และหากเกิด สงครามการค้า และนโยบายการขึ้นภาษีในสินค้าประเภทอื่น เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าจะส่งผลกระทบต่อการค้าโลก

อย่างไรก็ตามจากกรณีการขึ้นภาษีเหล็ก อาจส่งผลกระทบต่อไทยไม่มากนัก โดยจะกระทบภาคส่งออกไปยังสหรัฐ แต่ในอีกทางไทยเป็นผู้นำเข้าเหล็กมากกว่า หากมีการกดดันราคาเหล็กจึงเป็นโอกาสให้ไทยสามารถนำเข้าเหล็กได้มากขึ้นอย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีความกังวลว่า สหรัฐอาจขยายนโยบายภาษีสินค้าประเภทอื่น เช่น ยานยนต์ เคริ่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการค้าโลกอย่างมาก

ทั้งนี้ปี 2561 ทางสำนักวิจัยซีไอเอ็มบีไทย เตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในเดือนมี.ค.โดยต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.พ.เช่น การส่งออก การนำเข้า การลงทุนภาคเอกชน ตัวเลขการบริโภค ฯลฯหากออกมาดีอาจปรับประมาณการณ์จีดีพีเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันยังคาดว่าปี 2561 จีดีพีจะอยู่ที่ 4%

นอกจากนี้ปัจจัยที่ต้องจับตามองได้แก่ นโยบายการคลังสหรัฐ การส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทย ซึ่งทางสำนักวิจัยคาดว่า จะขยับขึ้นในช่วงไตรมาส 1/62 ซึ่งทาง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะต้องดูจากหลายปัจจัย เช่น เงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจทั้งไทยและต่างประเทศ