หุ้น-การเงิน

ดอลลาร์อ่อนค่า จับตาตัวเลขเงินเฟ้อ และถ้อยแถลงจากสมาชิกเฟด

ดอลลาร์
ภาพ : pixabay

ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า จับตาตัวเลขเงินเฟ้อ และถ้อยแถลงจากสมาชิกเฟด หลังเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ด้านนักวิเคราะห์คาด ECB ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2566 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (8/5) ที่ระดับ 33.89/91 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตาดเมื่อวันพุธ (3/5) ที่ระดับ 34.04/06 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 2-3 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 10 สู่ระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี โดยถ้อยแถลงหลังการประชุมระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังขยายตัวได้ ตลาดแรงงานแข็งแกร่งและอัตราการว่างงานต่ำ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่มีการเปิดเผยออกมานั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างานลดลงสู่ระดับ 3.4% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจอยู่ที่ 3.6%

ทั้งนี้นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ที่มีความสำคัญของเฟด โดยนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์กจะกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์กในวันอังคารนี้ (9/11)

ขณะที่นายฟิลลิป เจฟ เฟอร์สัน ผู้ว่าการเฟด และนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์จะกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาว่าด้วยเรื่องนโยบายการเงินซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในวันศุกร์นี้ (12/5)

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 33.83-34.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.85/87 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (8/5) ที่ระดับ 1.1018/22 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (3/5) ที่ระดับ 1.1035/39 ดอลลาสหรัฐ/ยูโร โดยวันพฤหัสบดี (4/5) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันนี้ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน

นักวิเคราะห์ระบุว่า ECB จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนจะยังไม่ปรับตัวลงสู่เป้าหมาย 2% ของ ECB จนกว่าจะถึงปี 2568

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ สำนักงานสถิติยุโรป (Eurostat) เปิดเผยยอดค้าปลีกในยูโรโซนปรับตัวลดลง 1.2% ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะลดลง 0.1%

อีกทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยอดค้าปลีกในยูโรโซนปรับตัวลดลงเนื่องจากภาคครัวเรือนมีกำลังซื้อลดลง เนื่องจากผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ย และภาคครัวเรือนหันมาเก็บเงินมากขึ้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1015-1.1052 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1026/30 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (8/5) ที่ระดับ 134.95/98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (3/5) ที่ระดับ 135.70/73 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันเดือนมีนาคม โดยระบุว่ากรรมการ BOJ ได้หารือเกี่ยวกับความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์

ขณะที่กรรมการ BOJ ส่วนหนึ่งกล่าว มีสัญญาณเชิงบวกที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และตัวเลขเงินเฟ้อมีแนวโน้มเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 134.67-1.5.28 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 1.3496/99 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดนำเข้า, ส่งออกและดุลการค้าของจีนประจำเดือนเมษายน (9/5), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐประจำเดือนเมษายน (10/5), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนประจำเดือนเมษายน (11/5), ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) (11/5), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (11/5), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นประจำเดือนพฤษภาคมจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (12/5)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -11.25/-11.10 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -16.20/-12.90 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ