โบรกฯ คาดแบงก์เก็บค่าฟีช่วยลดต้นทุนแต่ไม่เพิ่มรายได้ ชี้แนวโน้มกดเงินสดลดลง

ค่าเงินบาทวันนี้ (7 เม.ย.)
ภาพจาก PIXABAY

โบรกฯ แนะรอความชัดเจนพิจารณาเก็บค่าธรรมเนียมเงินสด คาดไม่ได้เพิ่มรายได้ให้แบงก์มากแต่ช่วยลดต้นทุนบางส่วน ชี้แนวโน้มคนทำธุรกรรมสาขา-กดเงินสดลดลง

วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสมาคมธนาคารไทยเปิดเผยว่า กำลังอยู่ระหว่างเร่งพิจารณาปรับโครงสร้างเรื่องของค่าธรรมเนียมทั้งระบบแบงก์ โดยเฉพาะการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมใช้เงินสด กลายเป็นประเด็นที่หลายคนกำลังให้ความสนใจอยู่ในตอนนี้

โดยนายธนเดช รังษีธนานนท์ Director of Research บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรื่องของความชัดเจนในการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวยังคงต้องรอความชัดเจนมากกว่านี้ แต่เบื้องต้นระบุว่าเป็นการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมใช้เงินสดหรือที่ไม่ใช่ผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งต้องตามดูว่าหากเก็บจะเก็บอย่างไร หรือมีสูตรในการคิดคำนวณอย่างไร ตอนนี้จึงยังไม่ชัดเจนว่าแบงก์จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บค่าธรรมเนียบมากน้อยแค่ไหน

“แต่คิดว่าแบงก์คงไม่มีรายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้นเยอะมาก เนื่องจากปัจจุบันคนที่เข้าสาขาหรือกดเงินสดจากบัตรกดเงินสดไม่ได้มีจำนวนเยอะมากและมีแนวโน้มลดลง เพราะจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่นิยมจ่ายเงินหรือซื้อของผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น” นายธนเดชกล่าว

นายธนเดชกล่าวต่อว่า รายได้หลักของแบงก์มาจากการปล่อยสินเชื่อ และมาจากการขายกองทุนหรือขายหุ้น รวมถึงค่าธรรมเนียมจากส่วนอื่น ๆ ฉะนั้นการเก็บค่าธรรมเนียมส่วนนี้น่าจะเข้ามาช่วยลดภาระหรือใช้จ่ายเกี่ยวกับสาขาต่าง ๆ หรือการทำธุรกรรมรูปแบบเก่า มองว่าอาจจะไม่ได้ส่งผลต่อแบงก์มากจนทำให้แบงก์มีกำไรเพิ่มเป็นกอบเป็นกำ แต่อาจจะเข้ามาช่วยลดภาระหรือต้นทุนบ้างส่วนลงได้

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิของระบบธนาคารพาณิชย์ปรับลดลงต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2561-2565 เนื่องจากมีการยกเลิกค่าธรรมเนียมโอนเงินส่งผลให้ปี 2561 การเติบโตลดลงเหลือ 0.3%, ปี 2562 ขยายตัว 1.3%, ปี 2563 หดตัว -9.4%, ปี 2564 ขยายตัว 0.3% และล่าสุดปี 2565 ขยายตัว 1.5%