นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่าปี 2561 จะมีรายได้รวมประมาณ 2,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดปี 2560 ที่มีรายได้ 1,980 ล้านบาท โดยถือว่าจะเป็นรายได้ที่เติบโตเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นผลจากการที่บริษัทจะรับรู้ผลตอบแทนจากโครงการโรงไฟฟ้า และมีรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทจะบันทึกรายได้และกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิตรวม 13 เมกะวัตต์ (MW) โดยแบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังผลิต 5MW ซึ่งได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าแล้วตั้งแต่ในปี 2560 และโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังผลิต 8MW ซึ่งจะจ่ายไฟเข้าสู่ระบบช่วงเดือนเม.ย.2561 ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ บริษัทคาดในปี 2561 จะมีรายได้ประมาณ 1,800ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากผู้ผลิตรถยนต์ค่ายฮอนด้า และฮีซูซุ ที่มีการปรับโมลเดลรถใหม่ จึงส่งผลให้บริษัทมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามา
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาที่จะเข้าซื้อกิจการประเภท โรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 8MW ซึ่งเบื้องต้นอยู่ระหว่างรอการสรุปราคาที่ชัดเจน โดยบริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 1,000ล้านบาท ทั้งนี้หากสามารถดำเนินการเข้าซื้อกิจการได้ ก็จะส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้จากโครงการดรงไฟฟ้าดังกล่าวได้ทันที เนื่องจากโรงไฟฟ้าได้เริ่มจ่ายไฟไฟฟ้าเข้าสู่ระบบแล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทอยุ่ระหว่างรอความชัดเจนจากภาครัฐในการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งหากภาครัฐประกาศให้ขอใบอนุญาตประกอบกิจการ บริษัทมีความพร้อมที่จะขอยื่นรับใบอนุญาต จำนวน 2โครงการ คิดเป็นขนาดกำลังผลิตรวม 16 MW
