กองทรัสต์ KTBSTMR ลงทุนเพิ่มในโครงการลาดพร้าว ฮิลส์ 450 ล้านบาท

กองทรัสต์ KTBSTMR เตรียมเข้าลงทุนเพิ่มใน “โครงการลาดพร้าวฮิลส์” (ส่วนสำนักงานและพาณิชย์) จำนวนเงินไม่เกิน 450 ล้านบาท กระจายความเสี่ยง เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว

วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาโอ รีท แมเนจเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DAOL REIT ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า

เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงในระยะยาว กองทรัสต์ KTBSTMR ได้รับมติจากคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2566 อนุมัติให้มีการลงทุนในโครงการลาดพร้าว ฮิลส์ และจัดประชุม EGM ผู้ถือหน่วยทรัสต์เพื่อพิจารณาอนุมัติการกู้ยืมเงิน และการให้หลักประกันที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในโครงการลาดพร้าวฮิลส์ จำนวนวงเงินไม่เกิน 450 ล้านบาท

นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ

เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงที่ดินบางส่วนและพื้นที่อาคารบางส่วนของโครงการลาดพร้าว ฮิลส์ และซื้อกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยจะเข้าลงทุนในส่วนที่เป็นพื้นที่สำนักงานและพื้นที่เช่าเพื่อการพาณิชย์ ส่งผลให้โครงสร้างการลงทุนของกองทรัสต์ KTBSTMR มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าลงทุน บริษัทในกลุ่มของเจ้าของทรัพย์สินโครงการลาดพร้าว ฮิลส์ จะกลับเข้ามาเป็นผู้เช่าเหมาเพียงรายเดียวในระยะเวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 23.3 ปี (โดยต่ออายุเช่าทุก 3 ปี และต่ออายุอีก 6 คราว คราวละ 3 ปี และต่ออายุอีก 2 ปี 3 เดือน) และมีคำมั่นในการต่ออายุได้อีก 2 ปี โดยผู้เช่าชำระค่าเช่าแบบสุทธิ (Triple Net Rent) ให้แก่กองทรัสต์ KTBSTMR เป็นรายเดือน

ขณะเดียวกันกองทรัสต์มีการลงทุนโดยการใช้เงินกู้ยืม ทำให้โครงสร้างทางการเงินของกองทรัสต์ KTBSTMR มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งมีโอกาสสร้างความมั่นคงของกระแสรายที่เพิ่มขึ้นและสม่ำเสมอได้ระยะยาว

ดังนั้น การลงทุนเพิ่มในโครงการลาดพร้าว ฮิลส์ จะทำให้กองทรัสต์ KTBSTMR มีการลงทุนในทรัพย์สินประเภทอาคารสำนักงานและพื้นที่เช่าเพื่อการพาณิชย์เพิ่มขึ้น ซึ่งธุรกิจของทรัพย์สินที่กองทรัสต์ KTBSTMR มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งสิ้นมากถึง 4 ประเภท ได้แก่ 1.โรงงานและคลังสินค้า 2.อาคารสำนักงาน 3.คอมมิวนิตี้มอลล์ และ 4.ศูนย์รับฝากข้อมูล ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนรวมประมาณ 4,215 ล้านบาท

สำหรับกองทรัสต์ KTBSTMR เป็นกองทรัสต์อิสระที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในทรัพย์สินหลากหลายประเภท ได้แก่ อาคารโกดังและคลังสินค้า (Warehouse) อาคารโรงงาน (Factory) อาคารสำนักงาน (Office) อาคารศูนย์การค้าประเภทคอมมิวนิตี้มอลล์ (Community Mall) และศูนย์รับฝากข้อมูล (Data Center)

ด้วยรูปแบบสินทรัพย์แต่ละโครงการในลักษณะที่แตกต่างกัน ทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มีการออกแบบตัวโครงการและจัดสรรพื้นที่ใช้สอยไว้เป็นอย่างดี ประกอบกับการมุ่งเน้นการจัดหาผู้เช่าที่มีคุณภาพสูง พร้อมบริหารกลุ่มผู้เช่า (Tenant Mix) ให้กระจายตัวได้ดีในแต่ละโครงการ

อีกทั้งกองทรัสต์ KTBSTMR ยังมีการจัดหารายได้จากธุรกิจหลายประเภท และมีศักยภาพในการเติบโตสูง ขณะเดียวกันสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่ส่งผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา และทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ยังขยายตัวได้ดีในปีนี้ จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทรัสต์ที่มีโอกาสให้อัตราผลตอบแทนสม่ำเสมอในทุกช่วงภาวะเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้จัดการกองทรัสต์ได้พิจารณาถึงการลงทุนติดตั้งระบบ Solar Energy ของโครงการ Summer Hill (Community Mall) และโครงการ Summer Hub (Office) เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้แก่โครงการในระยะยาว (ประมาณ 25 ปี) โดยการกู้ยืมจากธนาคาร ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นในการรณรงค์และตระหนักถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพย์สินต่อไป