“สมคิด” ชี้เป็นหน้าที่ผู้ว่าฯ ธปท. ดูแลบาทแข็งไม่ให้กระทบส่งออก

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ. ขยายตัวได้ 10.3% โดยเป็นการเติบโต 2 หลักต่อเนื่องมาหลายเดือน ถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ เพราะการส่งออกสามารถเติบโตได้ดี แม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่า ซึ่งยอมรับว่าตรงนี้มีผลทำให้เมื่อแลกเป็นเงินบาทจะแลกได้น้อยลงไป ทั้งนี้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ต้องดูแลเรื่องนี้

“ผมคิดว่านโยบาย มาตรการต่างๆ เราได้บอกกับแบงก์ชาติไปแล้ว เขารับรู้ทุกอย่างในสิ่งที่กระทรวงการคลังแสดงความกังวลไป ฉะนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ว่าการ ธปท.ที่ต้องไปดูสิ่งเหล่านี้ คืออันนี้เราไปก้าวก่ายเขาไม่ได้ ก็ต้องดูต่อไป เขารู้ ไม่ใช่ไม่รู้ และผมก็มองว่าเขาก็พยายามเต็มแล้ว เพราะต้องระวังไม่ให้เงินไหลออกพรวดพราดด้วย” นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวด้วยว่า ต้องยอมรับว่าการที่เงินบาทแข็งค่า เพราะเศรษฐกิจขยายตัวได้ดีขึ้น ซึ่งตนคิดว่าอัตราเติบโตของการส่งออก น่าจะขยายตัวได้ในระดับนี้ไปตลอดทั้งปีได้

นอกจากนี้ นายสมคิดกล่าวด้วยว่า การมองเศรษฐกิจไทยขณะนี้ ไม่อยากให้มองเป็นส่วนๆ แต่อยากให้นักลงทุน รวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ให้มองภาพรวมว่าประเทศไทยกำลังเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ที่พูดที่งานบีโอไอ เราแบ่งการลงทุนเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเมกะโปรเจ็กต์ กลุ่มอีอีซี และกลุ่มที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ทั้งหมดนี้ถ้าทำได้ตามแผนงานจะเป็นการพลิกโฉมประเทศ ซึ่งผมก็อยากให้ต่างชาติ รวมถึงสื่อ อย่าไปมองว่าเป็นการกระตุ้น เพราะเราพ้นจากกระตุ้นไปนานแล้ว เรากำลังเปลี่ยน เพื่อปฏิรูป” นายสมคิดกล่าว


ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า อยากให้จับตาดูตัวเลขการลงทุนตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไตรมาสแรกนี้ ซึ่งจะได้เห็นอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ผ่านมา