หุ้นไทยปิดตลาด +18.68 จุด แรงซื้อทะลักกลุ่มบิ๊กแคป ตลาดคลายกังวล “เฟด” ไปอีกราว 1-2 เดือน ก่อนจะถึงการประชุมรอบ ก.ย. คาด “การเมือง” คลี่คลายได้นายกฯ-ฟอร์ม ครม. ส.ค.นี้ ตลาดเชื่อ “พรรคเพื่อไทย” แกนนำจัดตั้งรัฐบาล-ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าการปรับตัวขึ้นแรงของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ในวันนี้ที่ดีดตัวขึ้นไปสูงสุด 21.68 จุด ที่บริเวณ 1,546.27 จุด หลัก ๆ มองว่ามาจากมูลค่าหุ้น (valuation) ของ PE ย้อนหลัง 10 ปี ปรับตัวลงมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ขณะเดียวกันกำไรงวดไตรมาส 2/2566 กำลังทยอยประกาศ ซึ่งกลุ่มธนาคารออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ 2-3% และจะเห็นค่าเงินบาทช่วงบ่ายแข็งค่าค่อนข้างแรง
- EV จีนทุบราคาเลือดสาด ฉางอานท้ารบ-BYD เกทับลดอีกแสน
- รู้จัก น้ำมัน EURO 5 เริ่มใช้ 1 ม.ค. 67 มีผลกับค่าการตลาดน้ำมันอย่างไร
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
ส่วนภาพใหญ่ในต่างประเทศ เมื่อวานนี้ (26 ก.ค.) ท่าทีของเฟดดูเหมือนยังไม่ได้พูดเต็มปากว่าจะสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกครั้งหนึ่งได้ ส่งผลให้ตลาดคลาย overhang เรื่องนี้ไปก่อนราว 1-2 เดือน และค่อยกลับมาพิจารณาอีกครั้งในการประชุมเฟดช่วงเดือน ก.ย. 2566
และมีการคาดการณ์ถึงปัจจัยทางการเมืองจะคลี่คลาย และเชื่อว่าน่าจะได้นายกรัฐมนตรีรวมถึงการฟอร์มคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน ส.ค.นี้ ไม่น่าที่จะมีลักษณะดีเลท์ไปถึงเดือน ก.ย.-ต.ค. ทำให้ตลาดหุ้นตอบรับในเชิงบวก โดยไทม์ไลน์ในสัปดาห์หน้า ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะมีการพิจารณาว่าจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ ซึ่งคงจะคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะรับหรือไม่รับ แต่เชื่อว่าน่าจะเปิดประชุมสภาและเลือกตั้งโหวตนายกฯ ในสัปดาห์ถัดไปจากวันนั้นเลย ดังนั้นไทม์ไลน์จะค่อนข้างชัด
“ตลาดเริ่มตอบรับในเชิงบวกมากขึ้นหลังจากที่คาดการณ์กันไว้แล้วว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ น่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่”
มองกรอบการเคลื่อนไหวแนวต้านที่บริเวณ 1,555 จุด และ 1,585 จุด ส่วนกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,525 จุด กลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้น เป็นลักษณะของการทยอยสะสมซื้อต่อเนื่อง ซึ่งแนะนำมาตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว หุ้นแนะนำแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ สินค้าโภคภัณฑ์ PTTEP, BANPU, TOP ซึ่งได้ประโยชน์โดยตรงจากเศรษฐกิจโลกทยอยฟื้นตัว ในขณะเดียวกันทยอยซื้อหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย BBL, AEONTS
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตลาดหุ้นไทยปิดเย็นนี้อยู่ที่ 1,543.27 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.68 จุด หรือ +1.23% จากดัชนีวันก่อนหน้า มีมูลค่าการซื้อขายรวม 62,628.67 ล้านบาท โดย KBANK เป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดอยู่ที่ 5,753.95 ล้านบาท ตามมาด้วย PTT จำนวน 3,113.37 ล้านบาท และตามมาด้วย BBL จำนวน 2,022.42 ล้านบาท
ส่วนหุ้นใหญ่ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากคือ JMART +11.69%, EA +9.13%, GPSC +5.99%, BANPU +3.74%, TRUE +3.60%, GULF +3.09%, BDMS +1.77%, KBANK +1.63%, CPALL +1.62%, MINT +1.54%, SIRI +1%
