
รัฐเก็บรายได้เดือนแรกสูงกว่าเป้า 2 พันล้าน การบริโภคฟื้นหนุน “สรรพากร” เก็บ VAT พุ่ง ขณะที่รายได้ภาษี “สรรพสามิต” หลุดเป้าจากผลกระทบมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล ด้านเงินคงคลัง ณ สิ้น ต.ค. 66 อยู่ที่ 297,094 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 20.9% เหตุคลังยังไม่กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ-เบิกจ่ายงบฯต่ำ
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค. 2566 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค. 2566-ก.ย. 2567) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 228,724 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,621 ล้านบาท หรือ 1.2%
แต่ใกล้เคียงกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรสูงกว่าประมาณการ จากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการนำเข้าและการบริโภคในประเทศเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากมีการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนเป็นการชั่วคราว จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ประกอบกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร ซึ่งเป็นรายการหักสูงกว่าประมาณการตามการจัดเก็บรายได้ที่สูงกว่าประมาณการ
ทั้งนี้ ในส่วนของ 3 กรมภาษี จัดเก็บรายได้รวมกันอยู่ที่ 194,884 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 6,438 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.4% และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 5,268 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 2.8%
โดยส่วนใหญ่เป็นกรมสรรพากรที่เก็บรายได้สุทธิ 141,924 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 6,769 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% และสูงกว่าประมาณการ 7,269 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 5.4%

ขณะที่กรมสรรพสามิต เก็บรายได้สุทธิ 42,750 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 6,429 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.7% แต่ต่ำกว่าประมาณการ 2,611 ล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้า 5.8%
ส่วนกรมศุลกากรเก็บรายได้สุทธิ 10,210 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 6,760 ล้านบาท หรือลดลง 39.8% แต่สูงกว่าประมาณการ 610 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 6.4%
ด้านรัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้เข้าแผ่นดิน 49,738 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 11,973 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31.7% และสูงกว่าประมาณการ 739 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 1.5% ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนำส่งรายได้เข้าแผ่นดิน 12,898 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 14,573 ล้านบาท หรือลดลง 53% และต่ำกว่าประมาณการ 719 ล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้า 5.3%
นายพรชัยกล่าวด้วยว่า ขณะที่ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดเดือน ต.ค. 2566 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 223,162 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 467,240 ล้านบาท
โดยในเดือนนี้ไม่มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 297,094 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 375,693 ล้านบาท หรือลดลงไป 78,599 ล้านบาท หรือลดลง 20.9%
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การที่เงินคงคลังลดลงค่อนข้างมากนั้น เนื่องจากกระทรวงการคลังไม่มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ เนื่องจากการเก็บรายได้ยังเพียงพอรองรับการเบิกจ่าย
“เดือน ต.ค. รายจ่ายติดลบไป 20,446 ล้านบาท หรือลดลง 4.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนรายได้นำส่งคลังมีเพิ่มขึ้น 17,874 ล้านบาท ดังนั้น ดูแล้วจึงยังไม่จำเป็นต้องกู้ชดเชยการขาดดุลมากองไว้ เพราะระดับเงินคงคลังที่เกือบ ๆ 300,000 ล้านบาท ก็เพียงพอกับสถานการณ์เบิกจ่ายงบประมาณในช่วงนี้” แหล่งข่าวกล่าว