ราคาน้ำมันดิบร่วงต่อ หลังดอลลาร์ขยับขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี

– ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมากกว่าร้อยละ 1 โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง และเข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไร เนื่องจากมูลค่าสัญญาน้ำมันดิบที่อ้างอิงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีราคาแพงเมื่อเทียบกับการซื้อขายด้วยสกุลเงินอื่น

– ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดน้ำมันดิบ โดยรอยเตอร์เผยคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 700,000 บาร์เรล ในขณะที่คาดการณ์ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังปรับลดลง

+ ตลาดน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านที่เพิ่มขึ้น หลังประธานาธิบดีของอิสราเอลได้ออกมาเปิดเผยแผนลับในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคว่ำบาตรอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค. 2561 ซึ่งหากเกิดการคว่ำบาตรครั้งใหม่อาจส่งผลให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านปรับลดลงอีกครั้ง

ราคาน้ำมันเบนซิน ตลาดปิดเนื่องในวันแรงงาน

ราคาน้ำมันดีเซล ตลาดปิดเนื่องในวันแรงงาน

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 72-77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

จับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้อุปทานมันดิบในภูมิภาคตึงตัวขึ้น โดยกลุ่มกบฎในเยเมนเปิดฉากยิงขีปนาวุธโจมตีซาอุดิอาระเบียเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกว่าสหรัฐฯ อาจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน และทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลกในปริมาณที่จำกัด

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลก ปรับลดลงอย่างมากนับตั้งแต่ช่วงปี 2561 ที่ผ่านมาและมีแนวโน้มปรับลดลงต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับต้นทุนเฉลี่ยในการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตในสหรัฐฯ