เปิดความคุ้มครอง ประกันภัย 3 บริษัท กระบะชนเก๋งพุ่งตกน้ำดับ 5 ศพ

ประกัน

กระบะเฉี่ยวชนรถเก๋งและเสียหลักตกคูน้ำข้างทาง จ.หวัดสิงห์บุรี เสียชีวิต 5 ราย คปภ. เร่งช่วยเหลือด้านประกันภัย ตรวจสอบพบมีประกันไว้กับ “มิตรแท้-ไทยไพบูลย์-เทเวศ” รอทายาทเตรียมเอกสารให้บริษัทประกัน

วันที่ 17 มีนาคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รายงานว่า จากกรณีรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บฉ–8666 อ่างทอง เฉี่ยวชนกับรถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน 5 กค–9199 กรุงเทพมหานคร และเสียหลักตกคูน้ำข้างทางทั้ง 2 คัน บริเวณถนนสายเอเชีย (ฝั่งขาขึ้น) หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 5 ราย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567

ข้อมูลการทำประกันภัย 3 บริษัท

สำนักงาน คปภ. โดยสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 2 (นครสวรรค์) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดสิงห์บุรี ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ได้ตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยทันที โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า

รถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บฉ–8666 อ่างทอง มีประกัน 2 ฉบับ ดังนี้

1. บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2566 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2567 คุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บค่ารักษาสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน

2. บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2566 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2567 โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก จำนวน 500,000 บาทต่อคน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความรับผิดต่อทรัพย์สิน 1,000,000 บาทต่อครั้ง

ADVERTISMENT

สำหรับความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพของผู้ขับขี่ จำนวน 50,000 บาท ผู้โดยสาร 2 คน ๆ ละ 50,000 บาทต่อคน และค่ารักษาพยาบาล จำนวน 50,000 บาทต่อคน ประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาทต่อครั้ง

รถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน 5กค–9199 กรุงเทพมหานคร มีประกัน 2 ฉบับ ดังนี้

ADVERTISMENT

1. บริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เริ่มคุ้มครองวันที่ 11 มกราคม 2567 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 11 มกราคม 2568 คุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บค่ารักษาสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน

2. บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 3 เริ่มคุ้มครองวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครอง ต่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก จำนวน 500,000 บาทต่อคน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความรับผิดต่อทรัพย์สิน 1,000,000 บาทต่อครั้ง

สำหรับความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพของผู้ขับขี่จำนวน 100,000 บาท ผู้โดยสาร 2 คน ๆ ละ 100,000 บาทต่อคน และค่ารักษาพยาบาล จำนวน 100,000 บาทต่อคน ประกันตัวผู้ขับขี่ 300,000 บาทต่อครั้ง

ติดตามค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัว

สำหรับการติดตามค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เบื้องต้นผลคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบอุบัติเหตุที่เสียชีวิต จำนวน 5 ราย โดยเบื้องต้นจะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัย ดังนี้

1. ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บฉ–8666 อ่างทอง จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพ จากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 35,000 บาท และจะได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุ ส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ จำนวน 50,000 บาท จากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

ส่วนผู้โดยสาร จำนวน 1 ราย จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 500,000 บาท และจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ จำนวน 50,000 บาท

2. ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน 5กค–9199 กรุงเทพมหานคร จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น เป็นค่าปลงศพจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 35,000 บาท และจะได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพของผู้ขับขี่ จำนวน 100,000 บาท จากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3

ส่วนผู้โดยสาร จำนวน 2 ราย จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รายละ 500,000 บาท และจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจประเภท 3 คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ รายละ 100,000 บาท

ประสานงานกับบริษัทประกันแล้ว

โดยในวันที่ 16 มีนาคม 2567 สำนักงาน คปภ.ภาค 2 (นครสวรรค์) และ สำนักงาน คปภ. จังหวัดสิงห์บุรี ได้ประสานงานกับบริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อรวบรวมเอกสารและอำนวยความสะดวกเพื่อดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอทายาทโดยธรรมจัดเตรียมเอกสารให้แก่บริษัทประกันภัย

นอกจากนั้น สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างบูรณาการร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้ประสบภัยหรือผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้มีการทำประกันภัยเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้อีกหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภัยก็จะได้รับสิทธิตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้
ทุกประการ

สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ และพร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกคน เพื่อความอุ่นใจ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถภาคสมัครใจ

และการประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านประกันภัยติดต่อสายด่วน คปภ. 1186