ITD กำไรไตรมาสแรก 122 ล้าน โบรกชี้สถานการณ์ยังไม่ปกติ

ITD

“อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์” กำไรไตรมาสแรกปีนี้ 122 ล้าน ด้าน “บล.เอเซีย พลัส” ชี้สถานการณ์ยังไม่ปกติ ผู้สอบบัญชียังไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง แนะ Underperform

วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานว่า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ในไตรมาส 1/2567 มีผลกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท พลิกฟื้นจากงวดไตรมาส 3/2566 และไตรมาส 4/2566 ที่มีผลขาดทุน 45 ล้านบาท และ 1,451 ล้านบาท (ตามลำดับ)

อย่างไรก็ตาม ผลกำไรที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1/2567 เกิดจากกำไรพิเศษหลายรายการได้แก่ 1.กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 225 ล้านบาท เนื่องจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง 6% QOQ ทำให้สินทรัพย์สกุลดอลลาร์มีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อแปลงค่าเป็นเงินบาท 2.กำไรจากการขายทรัพย์สินจำนวน 270 ล้านบาท และ 3.กำไรจากการได้รับเงินจากการ Settlement คดีพิพาทในต่างประเทศ ซึ่ง ITD ได้เคยบันทึกค่าใช้จ่ายไปแล้ว ประมาณ 700 ล้านบาท

ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส ประมาณการรายการนี้จากดอกเบี้ยรับและรายได้อื่น ๆ ในงวดไตรมาส 1/2567 ที่สูงกว่าปกติราว 700 ล้านบาท ขณะที่รายงานพิเศษที่เป็นลบ ได้แก่ การตั้งสำรองค่าเผื่อการด้อยค่า 680 ล้านบาท หากไม่นับรายการพิเศษทางบวกและทางลบดังกล่าว ITD ประมาณ 300-400 ล้านบาท ก็จะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน

ไตรมาสนี้ ITD มีรายได้จากธุรกิจก่อสร้างและบริการ 18,574 ล้านบาท (+56% QOQ, +8% YOY) รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากบริษัทย่อยในต่างประเทศ คือ ITD Cementation ที่มีการรับรู้รายได้จากงานในมือที่มีมากขึ้น ขณะที่รายได้จากงบฯเฉพาะกิจการปรับตัวลดลง 14% YOY อยู่ที่ 7,374 ล้านบาท

ด้านอัตรากำไรขั้นต้นทำได้ที่ 7.31% เพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาส 4/2566 ที่ทำได้เพียง 0.03% เนื่องจากงวดไตรมาส 4/2566 มีการปรับปรุงรายการทางบัญชีที่เกี่ยวข้องกับวิธีการรับรู้รายได้ในบางโครงการ อีกทั้งงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้างหลายโครงการก็ประสบปัญหาต้นทุน บานปลายจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า รวมไปถึงปัญหาด้านเครื่องจักรที่เกิดขึ้นในโครงการเหมืองแม่เมาะ 9 ทำให้การสร้างรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นในงวดไตรมาส 1/2567 ยังต่ำกว่าอัตราปกติที่ ITD เคยทำได้ประมาณ 8-10% โดยกำไรขั้นต้นที่ทำได้จากธุรกิจหลักไม่เพียงพอครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร บวกกับดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาสนี้ที่รวมกันสูงถึง 1,578 ล้านบาท ถือเป็นภาระหนักที่ ITD ต้องแบกรับ โดยเฉพาะดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับเพิ่มขึ้น 81 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่สูงขึ้น

ผู้สอบบัญชียังไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน

ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินงวดไตรมาส 1/2567 ของ ITD โดยระบุถึงสาเหตุว่าเกิดจากความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่อเนื่อง จากการที่ ITD มีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวนมาก

ADVERTISMENT

แม้ว่า ITD จะได้รับการผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 2 ปี จนถึงสิ้นปี 2568 รวมถึงมีการเจรจาขอให้ธนาคารผ่อนปรนเงื่อนไขการไม่สามารถดำรงอัตราส่วนทางการเงินสำหรับเงินกู้ และมีการดำเนินการตามแผนงานต่าง ๆ เพื่อให้บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจได้

แต่ความสำเร็จในการดำเนินการตามแผนดังกล่าว และความสามารถในการจ่ายชำระเงินกู้ยืมและหุ้นกู้ได้ตามวันครบกำหนดใหม่ยังเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้สอบบัญชีตั้งข้อสงสัย รวมไปถึงความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ที่ ITD เข้าไปลงทุน อาทิ โครงการทวาย โครงการทางด่วนในบังกลาเทศ และโครงการรถไฟฟ้าในอินเดีย เป็นต้น

อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง

ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นยาวนานจากธุรกิจหลัก และการต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยจาก โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ยังไม่สร้างผลตอบแทนคืนมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการเหมืองแร่บ๊อกไซต์และโครงการก่อสร้างโรงงานอลูมิน่า ในลาว, โครงการทวายในเมียนมา, เหมืองแร่โปแตช อุดรธานี และโครงการท่าเรือน้ำลึกที่โมซัมบิก นำไปสู่ปัญหาการขาดสภาพคล่องรุนแรง

ทำให้ ITD ต้องเจรจาขอขยายระยะเวลาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้หุ้นกู้ เจ้าหนี้สถาบันการเงิน และซัพพลายเออร์เพื่อให้มีสภาพคล่องเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ แผนงานที่ ITD นำเสนอต่อนักลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหา คือ การปรับเปลี่ยนระบบการทำงานและระบบควบคุมเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส มีความเห็นว่าการประเมินความสำเร็จของแผนงานดังกล่าวยังต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ภายใต้โครงสร้างต้นทุนของ ITD ที่ต้องแบกรับต้นทุนคงที่ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายปีละกว่า 6 พันล้านบาท

ส่วนแผนงานที่น่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องได้เร็วกว่า คือ การได้รับงานก่อสร้างขนาดใหญ่จากภาครัฐ เพราะโดยปกติผู้รับเหมา จะได้เงินค่าก่อสร้างล่วงหน้าจากเจ้าของโครงการ 10-20% ของมูลค่าโครงการ เพื่อมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในช่วงแรกของการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม หาก ITD ลดราคามากเกินไปเพื่อให้ได้งานก็อาจกลายเป็นความเสี่ยงในระยะถัดไป

ล่าสุด ITD เป็นผู้ยื่นเสนอราคาต่ำสุดงานก่อสร้างทางด่วนจตุโชติ-ลำลูกกา มูลค่างานโยธา 1.8 หมื่นล้านบาท อีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องคือการขายทรัพย์สินบางส่วนออกไป โดยเฉพาะทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งในงบการเงินไตรมาส 1/2567 ทาง ITD ยังมีรายการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน จำนวน 1,977 ล้านบาท สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ ITD เข้าถือหุ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนออสเตรเลียที่จะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 20% ในโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่โมซัมบิก

ส่วนการลงทุนในโครงการเหมืองโปแตช จังหวัดอุดรธานี เบื้องต้นมีผู้ร่วมทุนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนให้ทั้งหมด โดยที่ ITD ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นส่วนใหญ่ในโครงการโปแตชไว้ หากการเจรจาสำเร็จก็จะช่วยลดภาระที่ ITD ต้องใช้เงินจำนวนมากสำหรับเดินหน้าโครงการเหล่านี้

สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง แนะนำ Underperform

ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส เลือกใช้วิธี Adjust Book Value ในการประเมินมูลค่าเหมาะสมของ ITD ภายใต้สถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลประกอบการ โดยมีการใส่ Discount Factor เพิ่มเติมในการประเมิน Fair Value อีก 30% เพื่อสะท้อนความเสี่ยงเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง (Going Concern) ของกลุ่มบริษัท จะให้ราคาเหมาะสมที่ 1.06 บาท แม้จะมี Upside พอให้เข้าลงทุนได้ แต่ Sentiment เชิงลบที่จะกดดันราคาหุ้นไปจนกว่าผู้สอบบัญชีจะกลับมาให้ความเห็นต่องบการเงิน จึงให้น้ำหนักการลงทุน Underperform