กรุงไทย-แอกซ่าขึ้นแท่นเบี้ยใหม่ Q1 แตะ 9 พันล้าน AIA-เมืองไทยฯพลิกเกม

ไตรมาสแรกยอดเบี้ยใหม่เปลี่ยนแชมป์ เป็น “กรุงไทย-แอกซ่า” เบียด “เอไอเอ-เมืองไทย” บิ๊กกรุงไทยฯชี้แรงส่งจากตัวแทนขายประกันสุขภาพ และแบงก์ขายยูนิตลิงค์ป้อนเศรษฐีคึกคัก ด้าน “เอไอเอ” เบี้ยตัวแทน FA นำโด่ง ฟาก “เมืองไทยฯ” ปรับพอร์ตเน้นระยะยาว ชู “ประกันสุขภาพ-คุ้มครอง-ยูนิติลิงค์ระยะสั้น” วัดใจโตยั่งยืน

รายงานข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ณ สิ้นไตรมาส 1/61 ตัวเลขเบี้ยประกันชีวิตรับรวมทั้งอุตสาหกรรมอยู่ที่ 161,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ 46,035 ล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตปีต่อไป 115,639 ล้านบาท ขณะที่พบว่า แชมป์เบี้ยรับใหม่ ได้เปลี่ยนมาเป็น บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต แทนเจ้าตลาดเดิม

นายไซมอน สมอลคอมบี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขาย บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทเติบโตโดดเด่นในช่วงไตรมาสแรก เนื่องมาจากการขายผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ ของตัวแทน ขณะที่ขายผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันซ์) ที่ได้รับความสนใจมาก คือ แบบประกัน “ยูนิตลิงค์” เจาะกลุ่มลูกค้าเวลท์ ทำยอดขายสูง 5,976 ล้านบาท

“เป็นผลจากเราจัดกิจกรรมให้ความรู้การลงทุนกว่า 40 ครั้ง และแนะนำผลิตภัณฑ์นี้ควบคู่กับความต้องการ 5 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นคุ้มครอง, สุขภาพ, เกษียณอายุ, การศึกษา, วางแผนมรดก ตามระดับความเสี่ยงและเหมาะสมของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งภายใน 2 เดือน บริษัทมียอดขายจากลูกค้ากลุ่มนี้กว่า 3,000 ล้านบาท หรือ 55% ของเบี้ยชำระครั้งเดียว เราคาดว่าตลอดปีนี้มีแผนจัดสัมมนาต่อเนื่องอีกกว่า 100 สัมมนา และในไตรมาส 3 นี้ เราจะเปิดแอปพลิเคชั่นใหม่ ช่วยการขายให้แก่พนักงานแบงก์ที่มี IC License (ใบแนะนำการลงทุน) ที่มี 3-4 พันคน จะสามารถบริการลูกค้าได้สะดวกมากขึ้น เพราะ คปภ.และ ธปท.กวดขันการขายประกันผ่านแบงก์ด้วย” นายไซมอนกล่าว

นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า ตัวแทนที่เป็นนักวางแผนการเงิน (FA) กว่า 8,077 คน ซึ่งแอ็กทีฟในการขายประกัน ดันเบี้ยรับรายใหม่ขยายตัวได้ถึง 5,121 ล้านบาท ซึ่งโปรดักต์ยูนิตลิงค์เป็นหนึ่งในสินค้าที่ขายดีมาก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูงที่ต้องการวางแผนมรดก ดังนั้น บริษัทมีแผนเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มนี้ให้เพิ่มมากขึ้น และช่วงนี้ เปิดตัวสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ “H&S Extra” โดยเน้นขายผ่านตัวแทน ช่วยเพิ่มพอร์ตลูกค้าสุขภาพ

“ประกัน H&S Extra เด่นที่ให้ความคุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก (OPD) ถือเป็นครั้งแรกของเอไอเอที่ทำ และรับประกันอายุตั้งแต่ 1 เดือน ซึ่งหากไม่มีเคลมทุกกรณี รับเงินคืนสูงสุดมากกว่า 25% ประกันตัวนี้จะครอบคลุมการรับประกันเด็ก ซึ่งเป็นตลาดที่ท้าทายเพราะเคลมค่อนข้างสูง แต่เราก็ได้ศึกษาตลาดกลุ่มนี้มาค่อนข้างดี จึงมีข้อจำกัดด้านการรับความเสี่ยงนี้ เช่น เด็กอายุ 1 เดือน-5 ปี ให้ความคุ้มครองค่าห้อง 5,000 บาท เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป ให้ความคุ้มครองค่าห้อง 25,000 บาท” นายเอกรัตน์กล่าว


นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กล่าวว่า เมื่อต้นปีนี้ บริษัทได้เริ่มปรับพอร์ตมาเน้นความคุ้มครองระยะยาวและระยะกลาง รวมถึงสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นจะทำให้พอร์ตเบี้ยรับรายใหม่จะเล็กลงเป็น 10 เท่า เมื่อเทียบกับเบี้ยประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้น ประกอบกับกรมธรรม์ครบกำหนดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีค่อนข้างมากทำให้เบี้ยรับรวมในช่วงไตรมาสแรกหดตัวลง แต่บริษัทยังคงบริหารจัดการได้ โดยในปีนี้บริษัทเริ่มหันมาเน้นความคุ้มครองและสุขภาพเป็นหลัก ส่วนตลาดยูนิตลิงค์ก็เริ่มได้รับความนิยม ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นแบบชำระรายงวด การปรับพอร์ตนี้จะทำให้บริษัทโตในระยะยาว