
บล.เอเซีย พลัส แนะกลยุทธ์ลงทุน 10 หุ้นปันผลสูง น่าทยอยซื้อสะสมก้าวข้ามความผันผวนประเด็นการเมือง มีตัวไหนบ้าง
วันที่ 17 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานผ่านบทวิเคราะห์ ว่า ประเทศไทยมีความไม่แน่นอนทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา กดดันให้ FLOW ต่างชาติไหลออก 17 วันติดต่อกัน รวมมูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านบาท และกดดัชนี SET INDEX ให้ปรับตัวลงมา 5.5% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่วันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) จะมีความคืบหน้าของกระบวนการการพิจารณา วินิจฉัย คดี 4 คดีโดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณา คดี 40 สว.ยื่นถอดถอน นายกฯ เศรษฐาสั่งยื่นบัญชีพยานเพิ่ม
- ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณา คดียุบก้าวไกล สั่งยื่นบัญชีพยานเพิ่ม
- อัยการนัดนำตัว อดีตนายกฯ ทักษิณ ส่งฟ้องศาล คดี ม.112
- ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ขาด คำร้อง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
ในวันพรุ่งนี้ น่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนเพียง 1 ประเด็นเท่านั้น คือ ประเด็นการได้มาซึ่ง สว.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งหากศาลชี้ขาดไม่ขัด รธน. = ยกคำร้อง ทำให้การดำเนินการเลือก สว. ปี’67 ระดับประเทศในวันที่ 26 มิ.ย. ตาม TIMELINE เดิม แต่หากศาลชี้ขาดขัด รธน. = กระทบต่อการเลือก สว. 67, อาจส่งผลต่อ SENTIMENT การลงทุนในตลาดหุ้นได้
กลับมาที่ตลาดหุ้น การที่ SET INDEX ย่อตัวลงมาต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยทำการค้นหาระดับการลงลึกของดัชนีในช่วง 1 เดือน เทียบเคียงกับข้อมูลในอดีต ย้อนหลังตลอด 10 ปีที่ผ่านมา (ไม่นับปี 2020) พบว่า การปรับตัวลงของดัชนีกว่า -5.5% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นการปรับตัวที่ลงแรงคิดเป็น PERCENTILE ถึง 96.1% ของการลงแรงในรอบ 1 เดือนตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในระดับที่ทิ้งห่างจากระดับปกติออกมามากแล้ว ส่วนในอดีต 10 ปี ที่ผ่านมา SET INDEX เคยลงได้ลึกสุด -9.3% ในช่วง 1 เดือน
ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ SET INDEX จะเกิด OVERHANG และไร้ซึ่งปัจจัยหนุนอย่างมีนัยต่อไป จึงทำให้ FUND FLOW ต่างชาติยังไม่น่าจะไหลเข้าในช่วงเวลาดังกล่าว กดดันให้ดัชนีกลับไปยืนเหนือระดับ 1,330 จุดได้ยาก ส่วนวันนี้คาดกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX ในกรอบ 1,300-1,315 จุด ขณะเดียวกัน SET INDEX ก็ย่อตัวลงมาลึกในช่วง 1 เดือน และเป็นการลงลึกกว่าระดับปกติมาก ดังนั้นถ้าเห็นพัฒนาการเชิงบวกกลับมาเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็นมุม FUND FLOW หรือมุมเทคนิดคอลก็มีโอกาสเห็น SET INDEX ค่อย ๆ ทยอยฟื้นได้
หุ้นปันผลสูง ผู้นำก้าวข้ามความผันผวนประเด็นการเมือง
หุ้นปันผล น่าจะเป็นพระเอกที่เอาชนะตลาดหุ้นที่ยังเผชิญความผันผวนจากประเด็นการเมืองในช่วงนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก ๆ 4 ส่วนดังนี้
- หุ้นปันผลสูง ปรับลงน้อยกว่าหุ้นอื่น ๆ ในช่วงการเมืองร้อนแรง โดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (15 พ.ค.-14 มิ.ย. 67) ดัชนีที่ลงแรงสุด คือ MAI ปรับตัวลง -7.62% ตามมาด้วย SSET -5.86%, SET -5.09%, SET50 -4.60% และSETHD (หุ้นปันผลสูง) ปรับตัวลงน้อยสุด -8% แสดงให้เห็นว่าหุ้นปันผลแข็งแกร่งและปรับตัวลงน้อยกว่าหุ้นอื่น ๆ ในช่วงประเด็นการเมืองร้อนแรง
- หุ้นปันผลสูงมักจะผันผวนน้อย ในโครงสร้างของหุ้นปันผลสูงมักจะมีความผันผวนน้อยกว่าตลาด หรือแปรผกผันกับค่า BETA สะท้อนได้จากหุ้นปันผลสูง มักจะมีค่า BETA ที่ต่ำ และหุ้นผันผวนต่ำมักจะมีค่า BETA ที่สูง
- ในเชิงเทคนิค หุ้นปันผลสูง (SETHD) มีกราฟที่ดูดีกว่าดัชนีอื่น ๆ สะท้อนได้จากดัชนี SETHD ยังไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ในปีนี้ ผิดกับดัชนีอื่น ๆ SET SET50 SET MAI ทำจุดต่ำสุดใหม่ของปีหมดแล้ว
- ในมุม VALUATION SET INDEX ย่อตัวลงมาจน DIVIDEND YIELD เปิดกว้าง โดย SET INDEX 1,310 จุด มี DIVIDEND YIELD สูงถึง 5% และเป็นระดับ +1SD ในรอบ 5 ปี
ทั้ง 4 ปัจจัยแสดงให้เห็นว่า หุ้นพื้นฐานแข็งแรงปันผลสูง น่าจะเป็นหุ้นผู้นำที่ดี สำหรับการก้าวข้ามความผันผวนประเด็นการเมืองในช่วงนี้ ดังนั้นฝ่ายวิจัยทำการคัดกรอง หาหุ้นพื้นฐานปันผลสูง ที่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล น่าทยอยซื้อสะสมก้าวข้ามความผันผวนในช่วงนี้ อย่าง SIRI, SPALI, TTB, SCCC, PTTEP, BBL, KBANK, INTUCH, TU, ADVANC มีรายละเอียดพื้นฐานดังตารางทางด้านล่าง
- การเมืองป่วน ทุบหุ้นไทยดิ่งหลุด 1,300 จุด โบรกฯชี้ภาพระยะสั้น
- Krungthai CIO มองหุ้นทั่วโลกพักฐาน หุ้นเล็ก-กลาง 3 ประเทศน่าสนใจ
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ แขวนเครื่องหมาย SP หุ้น SMK ปมตั้งกรรมการตรวจสอบไม่ครบถ้วน