
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดเศรษฐกิจไทยปี’67 ขยายตัวที่ 2.6% ชะลอตัวจากระดับ 2.8% ที่เคยคาดการณ์ไว้ ตามการลงทุน การใช้จ่ายภาครัฐที่ต่ำกว่าคาด ส่งออกฟื้นตัวช้า แนะจับตาความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้า
วันที่ 20 มิถุนายน 2557 นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า แม้ที่ผ่านมาเศรษฐกิจสหรัฐจะให้ภาพแรงส่งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงกว่าคาด จนตลาดปรับการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ หรือ Higher for Longer นั้น
แต่ก็มีประเด็นที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากในระยะหลัง ได้แก่ นโยบายภาษีของสหรัฐ และยุโรปที่กีดกันอุตสาหกรรม Cleantech ของจีน ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และแผงโซลาร์ ซึ่งมองว่าจะส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิตในภูมิภาคยุโรป อาเซียน และอเมริกาใต้
ขณะที่หากโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง กลยุทธ์ของจีนในการกระจายความเสี่ยงทางการค้า อย่างเช่น China+1 ที่ขยายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังประเทศอื่น ๆ เพื่อเลี่ยงกำแพงภาษีทางการค้า ก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ ดังนั้น ไทยต้องจับกระแสประเด็นการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อภาคอุตสาหกรรมไทยปรับทิศทางได้ทัน
โอกาสของไทยและภูมิภาค
“ในสถานการณ์ดังกล่าว เป็นโอกาสของประเทศไทยและภูมิภาคเช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับ Clean Tech และ EV ที่ไทยมีโอกาสที่ดีจากทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีมาก เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งหากไทยใช้รถไฟฟ้าเราจะลดค่าใช้จ่ายราว 1.2 ล้านล้านบาท รวมถึงมาตรการ China+1 ที่ไทยจะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตมาที่ไทย แต่เราต้องมีการปรับตัวในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนด้วย นอกจากนี้ ประเทศในกลุ่มอาเซียนควรจะต้องรวมพลังกันมากขึ้น เพื่อเพิ่มอำนาจ ในการต่อรองรวมถึงการมีบทบาททั้งตลาดเขตเศรษฐกิจและศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของโลก”
เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองเพิ่มเติมถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ว่า มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และการส่งออกที่ขยายตัวเป็นบวกมากขึ้นจากปัจจัยฐานต่ำในปี 2566 อย่างไรก็ตาม ประเด็นความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นข้างต้น การระบายสินค้าจากกำลังการผลิตส่วนเกินจากจีนมายังตลาดโลกรวมถึงไทย ในขณะที่ปัญหาเชิงโครงสร้างและความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง มีผลให้ส่งออกไทยฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์
โดยสรุปภาพรวมทั้งปี 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะอยู่ที่ 2.6% ชะลอตัวจากระดับ 2.8% ที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม ตามการลงทุน และการใช้จ่ายภาครัฐที่ต่ำกว่าคาด ประกอบกับการส่งออกไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด โดยในครึ่งปีแรกเติบโต 1.6% มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว
“ส่วนครึ่งปีหลังมองเติบโต 3.6% รับปัจจัยขับเคลื่อนจากการท่องเที่ยวและการลงทุน การใช้จ่ายของภาครัฐที่เข้ามาเสริมหลังการเบิกจ่ายงบประมาณ”
แนะปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
ด้านแนวโน้มภาคอุตสาหกรรมไทยนั้น นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ให้น้ำหนักกับ 3 ปัจจัยที่จะกระทบภาคอุตสาหกรรมในช่วงข้างหน้า ได้แก่
1. ความไม่แน่นอนของการเบิกจ่ายภาครัฐ ที่จะกระทบอุตสาหกรรมก่อสร้าง
2. สินค้านำเข้าที่ไหลเข้าไทยเพิ่มขึ้น จากผลของสงครามการค้า ซึ่งจะกระทบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ และเหล็ก
3. ต้นทุนทางธุรกิจเพิ่มขึ้น ทั้งราคาน้ำมันดีเซลที่ภาครัฐทยอยลดการอุดหนุน และค่าแรงที่มีทิศทางสูงขึ้น จะกระทบต่อเอสเอ็มอีโดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้แรงงานเข้มข้น
“ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ภาครัฐควรเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ กวดขันสินค้านำเข้าและสนับสนุนการใช้วัตถุดิบในประเทศ (Local Content) รวมถึงเติมสภาพคล่องให้กับ SMEs และเน้นวางแผนการจัดการน้ำ ขณะเดียวกัน ถึงเวลาที่ทุกภาคส่วนจะต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจขนานใหญ่ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกมิติ ทำให้รายได้เติบโตเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของต้นทุน”