
ค่าเงินเคลื่อนไหวในกรอบ เหตุขาดปัจจัยชี้นำ
วันที่ 20 มิถุนายน 2567 ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2567 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/6) ที่ระดับ 36.67/69 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (19/6) ที่ระดับ 36.67/68 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ ๆ มาเคลื่อนไหวตลาด รวมถึงเป็นวันหยุดของทางสหรัฐเนื่องในวันเฉลิมฉลองการเลิกทาส สำหรับเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุดสู่ระดับ 43 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรับตั้งแต่เดือนมกราคม และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 46 โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นลบ ขณะเดียวกัน สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว หลังอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง
โดยจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 1.6% ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 766,550 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 6.94% ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าระดับ 7% เป็นครั้งแรก
ขณะที่ปัจจัยการเมืองภายในประเทศไทยที่ยังไม่ชัดเจนยังคงกดดันตลาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยร่วงลงไปในช่วงเช้าเมื่อวาน (19/6) ก่อนจะดีดกลับมายืนเหนือ 1,300 จุดช่วงท้ายตลาดจากการทำ Short covering โดยในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 36.65-36.77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 36.74/75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ปัจจัยในภูมิภาค จีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี และ 5 ปี โดยดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ทั้งนี้ในปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนอยู่ที่ระดับ 3.45% และ LPR ประเภท 5 ปีอยู่ที่ระดับ 3.95%
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/6) ที่ระดับ 1.0744/46 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (19/6) ที่ 1.739/41 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง เนื่องจากตลาดสหรัฐปิดทำการในวานนี้
ทั้งนี้มีการเปิดเผยข้อมูลจากคณะกรรมาธิการยุโรป หรือ EC ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า อิตาลีเป็นประเทศที่มีการขาดดุลงบประมาณสูงสุดใน EU โดยอิตาลีมีการขาดดุลงบประมาณเทียบเท่ากับ 7.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ขณะที่ฮังการีขาดดุล 6.7% ของ GDP อย่างไรก็ดี ค่าเฉลี่ยการขาดดุลงบประมาณของ EU อยู่ที่ระดับ 3.5% ของ GDP
สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสำคัญได้ก่ การประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ ในอังกฤษ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ โดยในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในรอบระหว่าง 1.0711-1.0748 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0720/24 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
ขณะที่ปัจจัยในภูมิภาค ทางนายริชิ ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษแสดงความยินดี หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษ หรือ BOE ที่ระดับ 2% ซึ่งถือเป็นข่าวดีของรัฐบาลอังกฤษก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อจาราคาบริการที่ลดลงในอัตราที่ชะลอตัวกว่าคาดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งทาง BOE มองว่าเป็นความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในระยะกลาง แม้เงินเฟ้อทั่วไปลดลงสู่ระดับเป้าหมายของ BOE ที่ระดับ 2% ก็ตาม โดยบรรดานักลงทุนคาดการณ์ว่าทาง BOE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียงครั้งเดียวในเดือนกันยายน
โดยล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของ BOE มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 ในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปีในการประชุมเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกน 14 ครั้ง โดยนักลงทุนจะจับตาดูผลการประชุมในวันนี้
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/6) ที่ระดับ 158.08/10 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (19/6) ที่ 157.83/86 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 157.91-158.48 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 158.42/46 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ได้แก่ สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพฤษภาคม, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 1/2567, ดัชนีการผลิตเดือนมิถุนายนจากเฟดฟิลาเดลเฟีย และสต๊อน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ, ขณะที่อังกฤษเปิดเผยแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -9.20/-8.90 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -7.50/-6.20 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ