
แม้ว่าธุรกิจประกันจะเลิกขายกรมธรรม์โควิด “เจอ จ่าย จบ” กันไปนานแล้ว เพราะ “เจอ จ่าย แล้วก็เจ๊ง” กันไปหลายบริษัท ถูกเพิกถอนใบอนุญาตกันระนาว แต่ขณะนี้ยังเหลือเคสของบริษัท สินมั่นคงฯประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ยังคาราคาซังอยู่ สถานะปัจจุบันคือ ถูกนายทะเบียน หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สั่งให้หยุดรับประกันภัยชั่วคราว แต่ยังไม่มีการตัดสินใจในระดับนโยบายว่าจะสั่งเพิกถอนใบอนุญาต หรือจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ล่าสุดจากที่ทางสินมั่นคงฯประกันภัยเอง ได้มีการฟ้องร้อง คปภ.ต่อศาลปกครองกลาง เรียกค่าเสียหาย 40,000 ล้านบาท จากการออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ห้ามการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด แบบเจอจ่ายจบ มีความคืบหน้าจากการที่ศาลปกครองกลาง ได้พิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา
คปภ.ชี้เอกชนยื่นอุทธรณ์ได้
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ.กล่าวว่า สินมั่นคงฯยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ โดยตอนนี้ยังให้โอกาสส่งแผนฟื้นฟูกิจการ โดยไปเพิ่มทุนเพื่อดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนให้ได้ตามกฎหมาย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการกลับมาประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย โดยไม่ได้กำหนดเดดไลน์ แต่ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เหมาะสม
“ปัจจุบันสินมั่นคงฯยังไม่ได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ขณะนี้ คปภ.ได้เข้าควบคุมการอนุมัติจ่ายเคลมประกัน ในส่วนกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่มีความคุ้มครองเหลืออยู่อีกบางส่วน”
วัดใจคลังเพิกถอน-สั่งปิดกิจการ
ขณะที่แหล่งข่าวจาก คปภ.กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากสินมั่นคงฯมีข้อโต้แย้งในคดีนี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้อง แต่คงต้องไปประมวลผลให้ดี เพราะเชื่อว่าคำสั่งศาลในครั้งนี้ค่อนข้างพิจารณารอบด้าน อย่างไรก็ตาม หากสินมั่นคงฯยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้คดีจริง คาดการณ์ว่ากว่าจะตัดสินคดีต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 ปี
สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ ทางสำนักงาน คปภ.จะรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการ คปภ. (บอร์ด คปภ.) ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ เพื่อให้บอร์ดทุกคนได้รับทราบถึงหลักการของคำพิพากษาศาลปกครองกลาง รวมทั้งสถานะปัจจุบันของบริษัทสินมั่นคงฯประกันภัย จากนั้นบอร์ด คปภ.จะรายงานนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อไป
นอกจากนี้ ทาง คปภ.จะเรียกผู้บริหารสินมั่นคงฯ เข้ามาพูดคุยถึงแนวทางการเพิ่มทุนอีกครั้ง แม้ช่วงที่ผ่านมาได้เรียกเข้ามาคุยแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ค่อยมีความชัดเจน
“เราเชื่อว่ากระบวนการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัทสินมั่นคงฯประกันภัยน่าจะเร็วขึ้น เพราะ คปภ.เป็นฝ่ายชนะคดี คลายกังวลใจเรื่องนี้ไปได้แล้ว แต่ทั้งนี้ คงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ รมว.คลัง ในการจะสั่งปิดสินมั่นคงฯด้วย”
สินมั่นคงฯ ยันยื่นอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด บริษัท สินมั่นคงฯประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เนื่องจากบริษัทมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา และบริษัทจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป เพื่อรักษาสิทธิของบริษัท และเพื่อให้เป็นไปตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565
กปว.ตั้ง เบเคอร์ฯ ศึกษาแฮร์คัตหนี้
ด้าน นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) กล่าวว่า สถานะกองทุน กปว.ขณะนี้มีเงินสภาพคล่องเหลือแค่ 3-4 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันภาระหนี้คงค้างมีเกือบ 50,000 ล้านบาท จำนวนเจ้าหนี้ทั้งสิ้น 600,000 ราย โดยในช่วงเดือน ก.ค. 2567 จะมีเงินสมทบเข้ามาสู่ กปว.ประมาณกว่า 600 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายหนี้เพิ่มเติมได้
ส่วนเรื่องการกู้เงินตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบกรอบวงเงินกู้ไว้ 3,000 ล้านบาท แต่ให้ กปว.หาแหล่งเงินกู้ให้ได้ภายในวันที่ 30 ก.ย. 2567 ซึ่งขณะนี้ทุกสถาบันการเงินก็ยืนยันกลับมาแล้ว ว่าไม่สามารถปล่อยกู้ได้ เพราะรัฐบาลไม่ค้ำประกัน เพราะฉะนั้นคงต้องเสนอแผนใหม่ในปีหน้า
ขณะที่ประเด็นการเพิ่มรายได้จากการปรับเพิ่มเงินสมทบจากบริษัทประกันวินาศภัย ก็ได้เสนอให้ คปภ.ไปร่วมพิจารณากับภาคอุตสาหกรรมเรียบร้อยแล้ว เงื่อนไขต่าง ๆ คงอยู่ที่ข้อตกลงทั้งสองฝ่าย
นายชนะพลกล่าวว่า ขณะนี้ กปว.ได้ว่าจ้างบริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด (Baker & McKenzie) ซึ่งเป็นบริษัทกฎหมายให้ช่วยศึกษาการแก้ไขหนี้ที่เป็นภาระของกองทุน โดยวางกรอบการศึกษาการแก้ไขหนี้ในมิติต่าง ๆ มิติแรกคือ การปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการแฮร์คัตหนี้ควรจะเป็นสัดส่วนเท่าไร
และในกรณีสมัครใจประนอมหนี้ควรจะเป็นสัดส่วนเท่าไร มิติที่สองคือ แหล่งเงินที่สามารถนำมาจ่ายหนี้ได้ และใช้ระยะเวลาคืนหนี้กี่ปี และมิติที่สามคือ ติดขัดข้อกฎหมายส่วนไหนบ้างที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข
“ตอนนี้ เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ ขอเวลาศึกษา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2567 โดยเขากำลังไปหาพันธมิตรในด้านบัญชีและการเงิน ซึ่งทาง กปว.แจ้งไปว่าให้เวลาศึกษาเรื่องนี้ 1 เดือน เพื่อช่วยหาทางออกให้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด”
สรุปแล้ว เคสสินมั่นคงฯประกันภัยและกองทุนประกันวินาศภัยก็ยังคงไร้ข้อสรุปที่ชัดเจน ว่าจะแก้ปัญหาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้อย่างไร ในขณะที่เวลาทอดยาวออกไปทุกขณะ