
ดอลลาร์แข็งค่า ขานรับความเห็นเจ้าหน้าที่เฟด จับตา PCE คืนวันศุกร์
วันที่ 26 มิถุนายน 2567 ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 26 มิถุนายน 2567 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (26/6) ที่ระดับ 36.75/76 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (25/6) ที่ระดับ 36.65/66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
หลังจากนางมิเชล โบว์แน สมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และสมาชิกถาวรคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) กล่าวเมื่อคืนวานนี้ (25/6) ว่า ขณะนี้ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อยังคงบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐ ยังคงต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% และยังคงไม่ถึงเวลาอันเหมาะสมที่เฟดจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งนางโบว์แมน ยังคงเปิดกว้างต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ดอลลาร์สหรัฐ ได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยคืนวานนี้ (25/6) S&P CoreLogic Case-Shiller แถลงผลสำรวจดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.2% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.0% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือน มี.ค.
นอกจากนี้สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Conference Board เปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เดือน มิ.ย.ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 100.4 จากระดับ 101.3 ในเดือน พ.ค. ทว่าดัชนีดังกล่าวยังคงอยู่เหนือระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 100.0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด, ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สหรัฐ ไตรมาสที่ 1/2567 (27/6) และตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) สหรัฐ ในวันศุกร์นี้ (28/6) เพื่อประเมินถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ
สำหรับปัจจัยภายในประเทศวันนี้ (26/6) นักลงทุนจับตาผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ จาก 20 สาขาอาชีพ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเที่ยงคืนวันนี้ (26/6) และความคืบหน้าคดีการเมืองที่จะเริ่มพิจารณาคดีอีกครั้งต้นเดือน ก.ค.
ทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นางสาวปราณี สุนทรศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค ธปท. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวจากการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 35.5 ล้านคน ในปี 2567 ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ราว 2.6% ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 36.74-36.82 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 36.80/81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (26/6) ที่ระดับ 1.0709/11 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (25/6) ที่ระดับ 1.0732/34 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร วันนี้ (26/6) สถาบัน Gfk เปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนีเดือน ก.ค.อยู่ที่ระดับ -21.8 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ -19.4 และต่ำกว่าเดือน มิ.ย.ที่ระดับ -21.0 ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าขึ้นเล็กน้อย
นอกจากนี้นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสในวันที่ 30 มิ.ย. และ 7 ก.ค. ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0684-1.0717 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0697/99 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดเช้าวันนี้ (26/6) ที่ระดับ 159.70/71 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (25/6) ที่ระดับ 150.46/47 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยระหว่างวันค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง เฉียดระดับ 160.00 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ตามทิศทางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขดัชนียอดค้าปลีกเดือน พ.ค. (27/6), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มิ.ย.และดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมดือน พ.ค. (28/6) ของญี่ปุ่น เพื่อประเมินหาทิศทางนโยบายการเงินของ BOJ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 159.65-160.02 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 159.97/98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (27/6), GDP สหรัฐ ไตรมาสที่ 1/2567 (27/6), ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน พ.ค. สหรัฐ (27/6), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอการปิดขายเดือน พ.ค.สหรัฐ (27/6), ประมาณการเบื้องต้นอัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ของฝรั่งเศส (28/6), ดัชนี PCE สหรัฐเดือน พ.ค. (28/6), และประมาณการครั้งสุดท้าย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (28/6)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -10.00/-9.75 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -7.00/-6.00 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ