รถไฟฟ้าสายสีส้ม หุ้นรับเหมาก่อสร้างตีปีก ใครได้ประโยชน์สุด?

รถไฟฟ้าสายสีส้ม
รถไฟฟ้าสายสีส้ม

ครม.เห็นชอบข้อเสนอ ก.คมนาคม เซ็นสัญญา PPP ร่วมก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกกับ BEM เริ่มก่อสร้างภายในไตรมาส 1/68 เปิดบริการเต็มรูปแบบปี 2573 ด้าน “บล.กสิกรไทย” เปิดรายชื่อหุ้นรับเหมาก่อสร้างรับประโยชน์

วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงมติเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม ในการเซ็นสัญญาให้เอกชนเข้าร่วมทุนในกิจการรัฐ (PPP) ระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เพื่อร่วมก่อสร้างฝั่งตะวันออกของรถไฟฟ้าสายสีส้ม และงานระบบและเดินรถของสายสีส้มทั้งสาย

โดยสัญญาแรกคือ งานตกแบบและก่อสร้างฝั่งตะวันออกของรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 9.6 หมื่นล้านบาท สัญญาที่ 2 มีมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย

  1. งานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องจักร
  2. สัญญาดำเนินงานและซ่อมบำรุง (O&M) ระยะเวลา 30 ปี ของทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกของรถไฟฟ้าสายสีส้มภายใต้รูปแบบ PPP Net Cost

โดยกรอบระยะเวลา BEM ระบุว่าเป้าหมายสำคัญคือ 1.การเซ็นสัญญา PPP เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2567 2.การเริ่มงานก่อสร้างภายในไตรมาส 1/2568 3.การเริ่มงานติดตั้งระบบรางของฝั่งตะวันออกและดำเนินงานบางส่วนภายในครึ่งหลังปี 2571 4.ระยะเวลาส่งมอบงานก่อสร้างฝั่งตะวันตกและเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2573

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย เผยว่า สำหรับมุมมองของฝ่ายวิจัยกสิกรฯ มีมุมมองบวกต่อ BEM, CK และ SEAFCO จากความคืบหน้าของโครงการนี้ ขณะนี้มีมุมมองลบต่อ BTS, BEM คาดว่า CK จะเป็นผู้รับเหมาหลักของฝั่งตะวันตกของรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ขณะที่คาดว่า SEAFCO และ Bauer จะเป็นผู้รับเหมาะเข็มเจาะหลัก (สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงตอนใต้ที่ผ่านมา งานเข็มเจาะคิดเป็น 5% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด) ขณะเดียวกัน มองว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มหากก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มจำนวนเที่ยวโดยสารของสายสีฟ้าของ BEM และสีเขียวของ BTS โดยรวมได้ ทั้งนี้ คงมุมมองบวกต่อกลุ่มรับเหมาจาก

ADVERTISMENT
  1. กระแสข่าวเกี่ยวกับโครงการเมกะโปรเจ็กต์ใหม่ของรัฐบาลที่จะเปิดประมูล
  2. การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลในปี 2567 และปี 2568
  3. โครงการเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลที่มากขึ้น ซึ่งคาดจะกระตุ้นการลงทุนในโครงการก่อสร้างของภาคเอกชน

หุ้นเด่น ได้แก่ CK แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 27.3 บาท และ SEAFCO ราคาเป้าหมาย 3.24 บาท CK เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มผู้รับเหมาโยธาจากแนวโน้มยอดงานในมือ (Backlog) ที่แข็งแกร่ง ยังชอบ SEAFCO ในกลุ่มผู้รับเหมาเสาเข็มเจาะ เพราะคาดจะได้ประโยชน์จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

“เรารวมโครงการนี้ในคาดการณ์ยอด Backlog ของเราสำหรับ CK ที่ 9.6 หมื่นล้านบาท และ SEAFCO ที่ 1.1 พันล้านบาท เรารวมสัดส่วนค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีส้มในประมาณการของ BEM ของเรา คิดเป็น 2.7 บาท ต่อราคาเป้าหมายของ CK และ 2 บาท ต่อราคาเป้าหมายของ SEAFCO และ 1.2 บาท ต่อราคาเป้าหมายของ BEM นอกจากนี้ เรายังเชื่อว่าทั้ง 3 บริษัทจะมีเงินทุนมากพอที่จะสนับสนุนโครงการนี้”

ADVERTISMENT