
“ดีเอสไอ” รับคดี EA ผู้บริหารไซฟอนเงิน ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง 3,465 ล้านบาท เป็นคดีพิเศษ เตรียมเซ็นตั้ง “คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน” เร่งรวบรวมหลักฐาน
วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการกล่าวโทษบุคคลรวม 3 ราย คือ 1.นายสมโภชน์ อาหุนัย 2.นายอมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการและผู้บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA)
และ 3.นายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกันกระทำการทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ และหรือทุจริตการจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ EA ผ่านบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท อีเอ โซล่า นครสวรรค์ จำกัด และบริษัท อีเอ โซล่า ลำปาง จำกัด เมื่อปี 2556-2558 ต่อเนื่องกัน
เป็นเหตุให้บุคคลทั้ง 3 ราย ได้รับผลประโยชน์ รวม 3,465.64 ล้านบาท การกระทำของบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ยังได้แจ้งการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ข้างต้นต่อสำนักงาน ปปง. อันเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ล่าสุดวันที่ 19 ก.ค. 2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับเป็นคดีพิเศษ โดยทาง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ภายหลังจากดีเอสไอได้รับหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ช่วงที่ผ่านมา กองบริหารคดีพิเศษ ได้มีการรับเรื่องราวและประมวลเรื่องทั้งหมด ก่อนส่งเรื่องไปยังกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ซึ่งตามพฤติการณ์ที่ ก.ล.ต. ร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา จึงถือเป็นความผิดท้าย พ.ร.บ. ของดีเอสไอ อีกทั้งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 3,465 ล้านบาท จึงอยู่ในเกณฑ์ที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อนุมัติรับเป็นคดีพิเศษได้
ตนในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดี จึงมีคำสั่งอนุมัติเป็นคดีพิเศษเรียบร้อยแล้ว เพราะในหนังสือที่ ก.ล.ต. ร้องทุกข์กล่าวโทษพฤติการณ์มาให้ ค่อนข้างชัดเจน และมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ตนจะไปออกเลขคดีพิเศษให้เป็นไปตามขั้นตอนการธุรการทางคดี จากนั้นจึงจะตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดี เพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและหาข้อเท็จจริงต่อไป
พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ หากดูตามคำกล่าวหาของ ก.ล.ต. หากมีประเด็นที่ดีเอสไอจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม หรือสงสัย ก็จะต้องเชิญผู้แทนจาก ก.ล.ต. มาให้ข้อมูล และจะนัดหมายตามวันเวลาที่ ก.ล.ต. สะดวก เพื่อให้มายืนยันคำกล่าวหาด้วย
ส่วนเรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ก่อน เพื่อป้องกับการยักย้าย ถ่ายเท ระหว่างสืบสวนคดีนั้น ทราบว่า ก.ล.ต. ได้มีการประสานกับสำนักงาน ปปง. ไปเรียบร้อยแล้ว