เปิดกำไรแบงก์พาณิชย์ครึ่งปีแรก 67 โกยกำไรแสนล้านบาท ตั้งสำรองเพิ่ม 12.45%

ธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง มีกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี’67 รวมอยู่ที่ 1.03 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.75% เทียบ YOY ส่วนเฉพาะไตรมาส 2 อยู่ที่ 5.12 หมื่นล้านบาท หดตัว -1.55% QOQ ด้านตั้งสำรองหนี้เพิ่มขึ้น 12.45% อยู่ที่ 1.02 แสนล้านบาท รองรับความไม่แน่นอน สอดคล้องกับหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น 6.63% รวมอยู่ที่ 4.28 แสนล้านบาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ได้รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2567 และงวดครึ่งปีแรก ปี 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยธนาคารที่มีการรายงานผลประกอบการออกมาแล้ว 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) บริษัท เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) ธนาคารทิสโก้ (TISCO)

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) โดยมีกำไรสุทธิรวมกันในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 51,224 ล้านบาท ลดลง -1.55% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) และมีกำไรสุทธิงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 103,257 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.75% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ที่อยู่ 100,493 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากดูธนาคารที่มีกำไรสูงสุดในไตรมาส 2/67 จะเป็นธนาคารกสิกรไทย อยู่ที่ 12,653 ล้านบาท รองลงมากรุงเทพ อยู่ที่ 11,807 ล้านบาท และตามมาด้วยเอสซีบี เอกซ์ 10,014 ล้านบาท และหากดูกำไรสุทธิงวดครึ่งปีแรกสูงสุด คือ กสิกรไทย อยู่ที่ 26,139 ล้านบาท และธนาคารกรุงเทพ 22,330 ล้านบาท เอสซีบี เอกซ์ 21,295 ล้านบาท

แต่หากดูธนาคารที่มีการเปลี่ยนแปลงของกำไรสุทธิในไตรมาส 2/67 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67 โดดเด่น ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ เพิ่มขึ้น 12.19% และธนาคารกรุงศรีอยุธยา 8.83% และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เพิ่มขึ้น 6.87% ส่วนงวดกำไรครึ่งปีแรก เทียบงวดครึ่งแรกของปี’66 (YOY) คือ ทีทีบี เพิ่มขึ้น 20.63% รองลงมา ธนาคารกสิกรไทย เพิ่มขึ้น 20.26% และธนาคารกรุงเทพ เพิ่มขึ้น 4.23%

สำหรับการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ หรือผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ณ ไตรมาส 2/67 รวมอยู่ที่ 53,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.67% เมื่อเทียบ QOQ ที่อยู่ 49,267 ล้านบาท และเมื่อดูตัวเลข ECL ในงวดครึ่งแรกของปี 2567 รวมอยู่ที่ 102,806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.45% เมื่อเทียบ YOY ที่อยู่ 91,427 ล้านบาท

ADVERTISMENT

โดยธนาคารที่มีการตั้งสำรองสูงสุดในไตรมาส 2/67 ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เพิ่มขึ้น 190.48% อยู่ที่ 1,769 ล้านบาท เมื่อเทียบ QOQ อยู่ที่ 609 ล้านบาท ธนาคารทิสโก้ เพิ่มขึ้น 46.24% อยู่ที่ 408 ล้านบาท เมื่อเทียบ QOQ อยู่ที่ 279 ล้านบาท รองลงมา ธนาคารกรุงเทพ เพิ่มขึ้น 21.49% อยู่ที่ 10,426 ล้านบาท

ขณะที่ธนาคารที่มีการตั้งสำรองสูงสุดในงวดครึ่งปีแรก 67 จะเป็นธนาคารทิสโก้ เพิ่มขึ้น 663.3% อยู่ที่ 687 ล้านบาท เมื่อเทียบ YOY อยู่ที่ 90 ล้านบาท รองลงมาธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพิ่มขึ้น 76.99% อยู่ที่ 24,088 ล้านบาท เมื่อเทียบ YOY อยู่ที่ 13,610 ล้านบาท และธนาคารทีทีบี เพิ่มขึ้น 22.03% อยู่ที่ 10,397 ล้านบาท เทียบ YOY อยู่ที่ 8,520 ล้านบาท

ADVERTISMENT

สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ณ ไตรมาส 2/67 มียอดรวมอยู่ที่ 428,449 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.53% เมื่อเทียบ QOQ อยู่ที่ 417,888 ล้านบาท โดยธนาคารที่มียอดหนี้เสียเพิ่มขึ้นสูงสุด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา อยู่ที่ 72,973 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.13% เทียบ QOQ อยู่ที่ 66,866 ล้านบาท รองลงมา ธนาคารทิสโก้ อยู่ที่ 5,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.65% เทียบ QOQ ที่อยู่ 5,341 ล้านบาท และธนาคารกรุงเทพ อยู่ที่ 99,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.53% เทียบ QOQ ที่อยู่ 93,949 ล้านบาท

และหากดูตัวเลขเอ็นพีแอลงวดครึ่งแรกของปี’67 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 428,449 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน YOY ที่อยู่ 401,804 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.63% สำหรับธนาคารที่มีเอ็นพีแอลเพิ่มสูงสุด ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพิ่มขึ้น 32.99% จาก 54,871 ล้านบาท เพิ่มเป็น 72,973 ล้านบาท รองลงมา ธนาคารทิสโก้ เพิ่มขึ้น 12.48% จาก 5,064 ล้านบาท เป็น 5,696 ล้านบาท และธนาคารเกียรตินาคินภัทร เพิ่มขึ้น 9.07% จาก 14,248 ล้านบาท เพิ่มเป็น 15,540 ล้านบาท

ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในงวดครึ่งแรกของปี’67 เมื่อเทียบงวดเดียวของปีก่อน (YOY) พบว่า ธนาคารส่วนใหญ่ยังมี NIM ที่ขยับเพิ่มขึ้น ซึ่งธนาคารที่มีการเพิ่มขึ้นของ NIM สูงสุด คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพิ่มขึ้นถึง 22.44% เป็นผลมาจากการควบรวมสินเชื่อบริโภคในต่างประเทศ โดยธนาคารที่มี NIM ปรับลดลงจะมีเพียงธนาคารเกียรตินาคินภัทร ธนาคารทิสโก้ และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย

กสิกรไทยโกยกำไรงวดครึ่งปีแรกสูงสุด 2.61 หมื่นล้านบาท

ธนาคารกสิกรไทย มีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 26,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.26% เป็นผลจากการที่ธนาคารและบริษัทย่อยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้เกิดความคุ้มค่า และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to Income Ratio) อยู่ที่ระดับ 42.35% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ การตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลงเมื่อเทียบ YOY แต่ยังคงเป็นการตั้งสำรอง ตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง รองรับความไม่แน่นอนของปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ

SCB กำไร Q2 ลดฮวบ 15.6% เหตุยุติแอป Robinhood-สำรองเพิ่ม

กลุ่มการเงินเอสซีบี เอกซ์ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 10,014 ล้านบาท ลดลง 15.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการลดลงของกำไรสุทธิส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวจากการยุติการให้บริการแอปพลิเคชั่น “Robinhood” และการตั้งผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มเติมสำหรับลูกค้ารายใหญ่ รวมถึงรายได้จากการลงทุนและค่าธรรมเนียมปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้บรรเทาด้วยแรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น และการควบคุมอัตราค่าใช้จ่ายต่อรายได้อย่างเข้มงวด

ทีทีบีโกยกำไรครึ่งปีแรก 1.06 หมื่นล้าน โตขึ้น 20.63%

ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีทีบี แจ้งกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2567 อยู่ที่ 10,689 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.6% เมื่อเทียบ YOY และหากกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 5,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากแรงหนุนการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ โดยตัวเลขค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 8% อยู่ที่ 7,210 ล้านบาท เป็นผลมาจากการปรับปรุงค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ปรับดีขึ้นอยู่ที่ 42% เมื่อเทียบ YOY อยู่ที่ 44%

BBL กำไรสุทธิ 6 เดือนแรกปี’67 เพิ่มขึ้น 4.2% ที่ 2.23 หมื่นล้านบาท

ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับงวดแรกปี 2567 จำนวน 22,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% จากงวดเดียวกันปีก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 8.1% ตามการเติบโตของ

เงินให้สินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ สุทธิกับต้นทุนเงินรับฝากที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 3.05% สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น จากบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวมที่ยังคงเติบโตดี ส่วนผลขาดทุนด้านเครดิต

ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 19,007 ล้านบาท โดยพิจารณาภายใต้หลักความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง

กรุงศรีฯตั้งสำรองเพิ่ม ฉุดกำไรครึ่งปีแรกร่วง 7.9%

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แจ้งรายงานกำไรสุทธิ 6 เดือนแรก 2567 มีกําไรสุทธิจํานวน 15,752 ล้านบาท ลดลง 7.9% ผลของการลดลงของกำไรมาจากการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในต่างประเทศและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในประเทศ

เปิดกำไรแบงก์พาณิชย์ครึ่งปีแรก 67