ออมสิน ผนึก 16 แบงก์ จัด Soft Loan แสนล้าน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ 3.5%

ออมสินผนึกแบงก์พาณิชย์-แบงก์รัฐ รวม 16 แห่ง เดินหน้าโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ “GSB Boost Up” วงเงิน 100,000 ล้าน (Soft Loan) ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ 3.5% ต่อปี วงเงินสูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย คาดระยะแรกแบงก์ขอวงเงินกว่า 7-8 หมื่นล้าน

วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเป็นประธาน และสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up สำหรับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้เติบโต สามารถก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคได้อย่างเข้มแข็ง โดยมีธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวม 16 แห่ง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว

นายพิชัยกล่าวว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ปัจจุบันธุรกิจ SMEs ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งภาระต้นทุนธุรกิจสูง สภาพคล่องที่จำกัด และความต้องการแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ทุกภาคส่วนทั้งรัฐบาล กระทรวงการคลัง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุน SMEs ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนจากธนาคารออมสิน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567

ด้วยการสนับสนุนแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท ให้แก่ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้แก่ธุรกิจ SMEs ในการรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ SMEs สามารถก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคได้อย่างเข้มแข็ง และจะส่งผลดีต่อการขยายตัวต่อ GDP ของประเทศต่อไป

“การร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ SMEs สามารถก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคได้อย่างเข้มแข็ง และจะส่งผลดีต่อการขยายตัวต่อ GDP ของประเทศต่อไป โดยประเมินว่าแบงก์ที่เข้าร่วมโครงการจะมีการขอวงเงินราว 7-8 หมื่นล้านบาท” นายพิชัยกล่าว

ADVERTISMENT

ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้สั่งการให้ธนาคารออมสินเข้าช่วยเหลือ SMEs ให้มีสภาพคล่องที่เพียงพอ และเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการปล่อยสินเชื่อวงเงิน 100,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ให้แก่สถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นลูกค้าเดิมหรือลูกค้าใหม่ ที่ไม่ใช่การรีไฟแนนซ์ ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 3.5% ต่อปี วงเงินสินเชื่อสูงสุดต่อรายรวมทุกสถาบันการเงินไม่เกิน 40 ล้านบาท

“ตอนนี้แบงก์พาณิชย์และแบงก์รัฐ ได้แสดงความสนใจขอใช้สินเชื่อซอฟต์โลนแล้วประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท เม็ดเงินเหล่านี้ จะเริ่มทยอยเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแบงก์ใดที่ขอสินเชื่อซอฟต์โลนเข้ามาก่อน ทางธนาคารออมสินก็จะพิจารณาอนุมัติก่อน

ADVERTISMENT

ส่วนเหตุผลไม่ปล่อยสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ก็เพราะว่าต้องการที่จะเติมเม็ดเงินใหม่เข้าระบบเศรษฐกิจ หากปล่อยรีไฟแนนซ์ จะไม่เป็นเม็ดเงินใหม่ ทั้งนี้ ซอฟต์โลนแสนล้านบาทดังกล่าว ทางภาครัฐไม่ได้สนับสนุนด้านต้นทุนให้ธนาคารออมสิน แต่จะไม่กระทบต่อภาพรวมการดำเนินงานของธนาคาร เพราะออมสินจะมีการบริหารจัดการสินเชื่อด้านอื่นทดแทน” นายวิทัยกล่าว

นายวิทัยกล่าวว่า เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ หากมองเรื่องผลกระทบต่อต้นทุนนั้น ให้มองว่า เป็นค่าเสียโอกาสมากกว่า เพราะการนำเงินไปลงทุนในตลาดอินเตอร์แบงก์ด้วยเงิน 1 แสนล้านบาท ออมสินจะได้กำไรราว 5,000 ล้านบาท สำหรับระยะเวลา 2 ปีเท่านั้น ทั้งนี้ สามารถติดต่อยื่นขอสินเชื่อได้ที่สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าจะครบวงเงิน

โดยมีสถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการ รวม 16 แห่ง ได้แก่

    1. ธนาคารกรุงไทย (KTB)
    2. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
    3. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)
    4. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank)
    5. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBank)
    6. ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
    7. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
    8. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
    9. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)
    10. ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
    11. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP)
    12. ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH BANK)
    13. ธนาคารยูโอบี (UOB)
    14. ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) (ICBCT)
    15. ธนาคารทิสโก้ (TISCO)
    16. ธนาคารไทยเครดิต