หุ้นไทยวันนี้ ฟื้นจำกัด แนวต้าน 1,305 จุด ตลาดขาดปัจจัยใหม่หนุน

ตลาดหุ้น

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้ การฟื้นตัวยังจำกัด แนวต้าน 1,305 จุด แนวรับ 1,280 จุด ตลาดที่ขาดปัจจัยหนุนใหม่ รวมถึงปัจจัยการเมืองยังไม่ชัดเจน แนะ Selective Buy

วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่า ประเมิน SET สัญญาณยังอ่อนแรง และตลาดที่ขาดปัจจัยหนุนใหม่ รวมถึงปัจจัยการเมืองยังไม่ชัดเจน ทำให้แนวโน้ม SET การฟื้นตัวยังจำกัด โดยมีแนวต้าน 1,298 และ 1,305 จุด ตามลำดับ ขณะที่ในภาพรวมยังมีความเสี่ยงด้าน Downside โดยมีแนวโน้มทดสอบจุดต่ำเดิมบริเวณ 1,287 และ 1,280 จุด ตามลำดับ

ช่วงสั้นมอง SET ยังคงมี Upside จำกัด เนื่องจากยังรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศและรายละเอียดของโครงการดิจิทัลวอลเลต อีกทั้งติดตามงบฯ 2Q67 ของ บจ. ไทยกลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดจะฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนปัจจัยต่างประเทศคาดได้แรงหนุนจากสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ย โดยคาดดัชนี PCE และ PMI ของสหรัฐจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง อีกทั้งงบฯ 2Q67 ของ บจ.ในสหรัฐน่าจะยังแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดี ความคาดหวังต่อ Fund Flow ที่จะไหลกลับสู่ตลาด EM อาจจะยังจำกัดจากเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอและค่าเงินดอลลาร์ที่ยังไม่อ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นสงครามเทคโนโลยีที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นจะยังเป็นความเสี่ยงของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม

1.GDP 2Q67 (ประมาณการครั้งแรก) ของสหรัฐ +2.8% สูงกว่าตลาดคาดที่ +2.1% และสูงกว่า 1Q67 ที่ +1.4% หนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน

2.วานนี้ PBOC ประกาศลดดอกเบี้ย เงินกู้ระยะกลางสำหรับสถาบันการเงินและธนาคารต่าง ๆ ทั่วประเทศ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี ขณะที่รัฐบาลกำลังพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา

ADVERTISMENT

3.ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตรถยนต์ มิ.ย. ลดลง 20.11% YOY และปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ปีนี้เหลือ 1.7 จาก 1.9 ล้านคัน โดยปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เป็น 5.5 จาก 7.5 แสนคัน จากหนี้ครัวเรือนสูง รายได้ต่ำ

4.BOI ระบุ 6M67 มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,412 โครงการ เพิ่มขึ้น 64% YOY เงินลงทุนรวม 4.58 แสน ลบ. เพิ่มขึ้น 35% YOY สะท้อนถึงความเชื่อมั่นนักลงทุนและผลจากมาตรการส่งเสริมการลงทุน

ADVERTISMENT

5.บอร์ด ร.ฟ.ท. มีมติอนุมัติโครงการความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค กรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่ 2) ระยะทาง 357.12 กม. กรอบวงเงิน 3.4 แสนล้านบาท โดยจะนำเสนอ ครม. พิจารณา คาดได้รับอนุมัติ ม.ค. 68

6.พาณิชย์คาดปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า จะแถลงรายละเอียดอีกครั้งเกี่ยวกับการลงทะเบียนร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเลต ในช่วง ส.ค.-ก.ย. นี้ คาดจะดึงร้านเข้าระบบทั้งหมดเกือบ 2 ล้านราย

7.วันนี้ติดตามศาลปกครองสูงสุดชี้ขาดคดีหนี้จ้างเดินรถส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ BTS เม็ดเงินรวมกว่า 3.9 หมื่นล้านบาท อ่านคำพิพากษาคดีแรกวันนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท

กลยุทธ์การลงทุน

ตลาดหุ้นไทย ยังมี Upside จำกัด หลังรอความชัดเจนของปัจจัยต่าง ๆ ในประเทศและติดตามงบฯ 2Q67 ของ บจ.ไทย ส่วนสงครามเทคโนโลยีที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นจะเป็นความเสี่ยงของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้

1.หุ้นกลุ่ม Earnings Play ซึ่งคาด 2Q67 กำไรจะยังสามารถเติบโตทั้ง YOY และ QOQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง เลือก MINT BEM OSP TU KCE CPF TRUE

2.หุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลท. เริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 67 และเป็นหุ้นพื้นฐานดี มี ESG Rating ระดับ A-AAA เลือก HANA TOP BEM MINT OSP BBL AOT

3.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากแผนปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาทและลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี เลือก ADVANC AOT CPALL BDMS BBL KTB GULF

4.ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัว แม้ความไม่สงบในตะวันออกกลางยังไม่กระจายออกในวงกว้าง แต่ยังมีการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง และโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในรัสเซียกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยประเมินกรอบราคา 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

หุ้นแนะนำวันนี้

PTTGC ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวในฐานะผู้ผลิตปิโตรเคมีจากก๊าซซึ่งต้นทุนที่ต่ำกว่า อีกทั้งคาดหวัง Sentiment บวกจากจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนการบริโภคนำไปสู่แนวโน้มอุปสงค์ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น ขณะที่ 2H67 คาดกำไรปกติดีขึ้น HOH จาก GRM ฟื้น และ Valuation ไม่แพง PBV 67F 0.4 เท่า

CPAXT 2Q67 คาดกำไรปกติ 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YOY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น และ SG&A/Sales ที่ลดลง ส่วน 3Q67 คาดกำไรโตต่อเนื่อง YOY และทำระดับสูงสุดของปีใน 4Q67 อีกทั้งมี Upside Risk จากโครงการดิจิทัลวอลเลต (ยังไม่รวมในประมาณการ) แนะนำราคาซื้อวันนี้ไม่เกิน 29.75 บาท