
คลังเตรียมชง ครม.ไฟเขียวเงื่อนไขใหม่กองทุน TESG ลดหย่อนภาษีมากขึ้นวันนี้ หวังช่วยฟื้นตลาดหุ้น เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุน ช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลัง
วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม พิจารณาเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการคลังฉบับที่… (พ.ศ. …) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย)
โดยสาระสำคัญของการปรับปรุงกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund : TESG Fund) ที่เสนอต่อ ครม.ในครั้งนี้ เป็นไปตามที่กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีมติปรับเงื่อนไขกองทุนรวม TESG Fund เพื่อช่วยขับเคลื่อนตลาดทุน และยกระดับความเชื่อมั่น
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตนเองได้ส่งเรื่องรายละเอียดการปรับปรุงเงื่อนไขกองทุน Thai ESG เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ครม.ไปหลายสัปดาห์แล้ว แต่มีขั้นตอนทางราชการ
“TESG ไม่ได้ติดขัดอะไร ไม่ได้มีการปรับเงื่อนไขเพิ่มเติม ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยเสริมความเชื่อมันต่อนักลงทุนได้อย่างแน่นอน” นายพิชัยกล่าว
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับการเลือกหุ้น ESG ที่จะเข้าร่วมนั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีรายละเอียดและมีหลักเกณฑ์การคัดเลือกอยู่
ทั้งนี้ ส่วนของกองทุน Thai ESG นั้น คาดว่าเม็ดเงินจะเข้าสู่ตลาดหุ้นได้ในช่วงปลายปีนี้ เพราะเป็นกองทุนที่จะสามารถนำเงินที่ลงทุนมาลดหย่อนภาษีได้ ส่วนกองทุนรวมวายุภักษ์นั้นกำลังดำเนินการอยู่ อยากให้เรื่องเสร็จเร็วที่สุดเช่นกัน ถึงแม้จะเข้า ครม.ช้ากว่ากองทุน Thai ESG แต่เม็ดเงินจะเข้าสู่ตลาดทุนได้เร็วกว่า
เงื่อนไข TESG ใหม่
สำหรับรายละเอียดของการปรับเงื่อนไข TESG ใหม่มีดังนี้
1.ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิมสูงสุด 100,000 บาท
2.ระยะเวลาถือครอง 5 ปี (นับจากวันที่ซื้อ) จากเดิม 8 ปี
3.ต้องลงทุนในหุ้นใน SET/MAI โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (E)/ESG หรือเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจก หรือระดับการประเมิน CG Rating ของ IOD และมีการเปิดเผยข้อมูลด้านบรรษัทภิบาล (G) ในระดับและรูปแบบที่ ก.ล.ต.กำหนด, ESG Bond และ Green Token
4.หุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากลมากกว่า 80% จากเดิมส่วนใหญ่เน้นที่ ESG Bond และ Green Token เท่านั้น