ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ขณะที่ตลาดจับตารายงานการประชุมของ FOMC

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (21/6) ที่ 32.17/18 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (18/5) ที่ 32.14/15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและการค้าแล้ว โดยทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าไว้ชั่วคราว นายมนูชินได้ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ จะงดเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนไว้ก่อน หลังจากที่การประชุมเพื่อการหารือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้นมีความคืบหน้าอย่างมาก นอกจากนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่จีนและสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเกี่ยวกับผลการเจรจาหารือด้านเศรษฐกิจและการค้าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทำสงครามการค้าและตกลงที่จะบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อลดยอดขาดดุลการค้าที่สหรัฐมีต่อจีนอีกด้วย ในส่วนของประเทศไทยวันนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 2561 เป็นเติบโต 4.2-4.7% จากเดิมที่คาดไว้ในช่วง 3.6-4.6% หลังเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2561 ขยายตัวได้สูงถึง 4.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส สำหรับปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ เนื่องมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงระดับราคาสินค้าในตลาดโลกที่สูงขึ้น ซึ่งสนับสนุนให้การส่งออกและการผลิตสาขาอุตสาหกรรมขยายตัวในเกณฑ์ดี นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยยังได้รับแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.16-27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.24/25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้ (21/5) เปิดตลาดที่ระดับ 1.1755/58 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาด (18/5) ที่ 1.1775/78 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท ออกมาเปิดเผยว่า ในเดือนมีนาคม ยูโรโซนมียอดเกินดุลการค้า 26.9 พันล้านยูโร ลดลงจากระดับ 28.5 พันล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยยอดส่งออกเดือนมีนาคมลดลง 2.9% ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 2.5% นอกจากนี้ยูโรสแตทยังระบุด้วยว่า ปริมาณการค้าภายในยูโรโซนลดลง 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1715-1.1781 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1733/35 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับค่าเงินเยนวันนี้ (21/5) เปิดตลาดที่ระดับ 110.95/98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (18/5) ที่ระดับ 110.74/76 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ในวันนี้กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าเดือนเมษายนทั้งสิ้น 6.26 แสนล้านเยน (ประมาณ 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยยอดส่งออกในเดือนเมษายน ปรับตัวขึ้น 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 5.9% ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 110.71-111.39 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 111.26/28 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลข CPI ของญี่ปุ่น (22/5) ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษ (22/5) ตัวเลข CPI ของอังกฤษ (23/5) และรายงานการประชุมของ FOMC (24/5)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.90/-2.70 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.580/-0.70 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ