
เงินบาทแข็งค่ารับผลการประชุม FED หลังมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า หากทิศทางเงินเฟ้อชะลอตัวลง
วันที่ 1 สิงหาคม 2567ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2567 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 35.43/44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (31/7) ที่ระดับ 35.63/64 บาท/ดอลลาร์
หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับระบุในแถลงการณ์ว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เงินเฟ้อมีความคืบหน้าในการปรับตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดได้กล่าวกับสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า
“หากข้อมูลที่ได้รับมายังคงทำให้เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังอยู่ในทิศทางชะลอตัวลง เฟดก็พร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมครั้งหน้า คือในเดือน ก.ย.”
ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 8 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
นอกจากนี้ ADP (รายงานการจ้างงานแห่งชาติของสหรัฐ) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 122,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. ตัวเลขค่าจ้างเพิ่มขึ้นเพียง 4.8% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 และลดลง 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน
ในส่วนของสัญญาณทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ (31/7) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีรายงานว่าผู้นำกลุ่มฮามาสได้ถูกกองกำลังทหารอิสราเอลสังหารในประเทศอิหร่าน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น
นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตังเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ก.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. จากระดับ 206,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือน ก.ค.
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตาม การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 22-24 ส.ค. ในหัวข้อ “Reassessing the Effectiveness and Transmission of Monetary Policy” โดยมีธนาคารกลางสหรัฐ สาขแคนซัส ซิตี้ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ทั้งนี้ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ สำหรับในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในปีนี้ คาดว่านายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง
โดยปัจจัยภายในประเทศ ธปท.ผ่อนคลายเกณฑ์ อัตราแลกเปลี่ยนระยะที่ 3 มีการขยายวงเงินโอนออกสำหรับเงินให้เปล่าเพิ่มเป็น 2 แสนดอลลาร์ จาก 5 หมื่นดอลลาร์ เพื่อเอื้อธุรกิจออกไปกู้เงินบาท หรือสกุลเงินต่างประเทศกับบริษัทแม่ในต่างปะเทศไม่ต้องขออนุญาต พร้อมอำนวยนักลงทุนทำธุรกรรม อัตราแลกเปลี่ยนคล่องตัวมากขึ้น ทั้งนี้ระหว่างค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 35.43-62 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 35.60/61 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (1/8) ที่ระดับ 1.0828/29 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (31/7) ตลาดหุ้นยูโรปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นเเอสเอ็มแอล (ASML) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์ชิปของเนเธอร์แลนด์ หลังมีรายงานว่าบริษัทอาจจะได้รับการยกเว้นจากกฎเกณฑ์ใหม่ของสหรัฐเกี่ยวกับการส่งออกอุปกรณ์ชิปของต่างชาติ ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการเชิงบวกของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาด
ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0784-1.0829 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโรและปิดตลาดที่ระดับ 1.0782/83 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดเช้าวันนี้ (1/8) ที่ระดับ 150.23/24 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (31/7) ที่ 149.17/18 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นยืนยันการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราในเดือน ก.ค. เพื่อพยุงค่าเงินเยนที่ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปีเมื่อเทียบดอลลาร์ โดยญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดในเดือน ก.ค. โดยใช้วงเงิน 5.53 ล้านล้านเยน (3.68 หมื่นล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 149.17-149.98เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 149.95/97 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในสัปดาห์นี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (1/8), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนกรกฎาคม (1/8), ดัชนีภาคการผลิตเดือนกรกฎาคม (1/8)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -9.10/-8.90 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -9.6/-8.4 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ