แบงก์แห่ร่วมดิจิทัล 1 หมื่น ลงทะเบียน 2 วันเกิน 20 ล้าน

คลังยันแอปทางรัฐไม่ล้วงข้อมูลของประชาชน ย้ำไม่จำกัดสิทธิคนย้ายทะเบียนบ้าน แต่ต้องเป็นบ้านที่ตรงกับวันลงทะเบียน หากเปลี่ยนภายหลังจะไม่มีผล เผยตัวเลขลงทะเบียนแค่วันครึ่งทะลุ 20 ล้านคนแล้ว ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนเริ่มลงทะเบียน 16 ต.ค.นี้ ระบุแบงก์กว่า 14 แห่งประสานมาเพื่อขอเข้าร่วม และแอปไม่มีระบบโอน-จ่ายเงินผ่านบัญชีของผู้ลงทะเบียนได้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า คาดว่าธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ รวมถึงกลุ่มน็อนแบงก์ และผู้ให้บริการวอลเลตต่าง ๆ เข้ามาเชื่อมโยงระบบเพื่อรองรับการใช้จ่าย (Open Loop) ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet มากกว่า 14 ราย ที่แสดงความสนใจเบื้องต้น

โดยขณะนี้ยังมีเวลาพิจารณาว่าจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ จนถึงวันที่ 15 ส.ค.นี้ ซึ่งหลังจากนั้นจะรู้ชัดเจนว่าเข้าร่วมกี่ราย ขณะที่ในการจัดทำระบบยืนยันว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเสร็จทันแน่นอน

เรื่องความปลอดภัยของแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” มั่นใจได้ว่าปลอดภัยที่สุด เนื่องจากแอปทางรัฐไม่ได้เก็บข้อมูลที่อ่อนไหวของประชาชน เพราะว่าข้อมูลเหล่านั้นอยู่ที่หน่วยงานของรัฐบาล เช่น ภาษีก็อยู่กับกรมสรรพากร เป็นต้น

“กระทรวงการคลังส่ง Technical Spec ให้กับแบงก์เรียบร้อย ซึ่งหากระบบมีปัญหา แบงก์ไม่มีทางเข้าร่วม เพราะแบงก์เป็นคนมาขอเชื่อมกับรัฐบาล ไม่ใช่รัฐบาลไปขอเชื่อมกับเขา รัฐบาลไม่ได้สั่งแบงก์ต่าง ๆ ต้องเข้าร่วม แล้วแอปพลิเคชั่นทางรัฐเองไม่มีช่องทางในการที่จะไปสั่งให้มีการเบิก-ถอน-โอน-จ่ายได้ เราไม่มีประตูที่จะขอไปที่เงินในบัญชีของฝั่งแบงก์ มันไม่สมเหตุสมผลที่จะบอกว่าแบงก์เข้ามาแล้ว เราจะไปล้วงข้อมูลแบงก์ได้ เป็นแบบนั้นไม่ได้ ฉะนั้นสุดท้ายมันอยู่บนความปลอดภัย”

นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเดินหน้าต่อในเรื่องของการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้ และจะเปิดให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนได้ลงทะเบียนในวันที่ 16 ต.ค. 2567 ขณะนี้ระบบมีความพร้อม 100% อย่างไรก็ตามจะแถลงรายละเอียดอีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งยืนยันว่าจะเติมเงินได้ตามกรอบเวลาเดิม คือก่อนเดือน ธ.ค.

Advertisment

ส่วนยอดผู้ลงทะเบียนขั้นต้นเมื่อครบ 24 ชั่วโมง มีประชาชนมาลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิทั้งสิ้น 18.8 ล้านคน และจนถึงเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 2 ส.ค. มียอดลงทะเบียนสำเร็จทะลุเกิน 20 ล้านคนไปแล้ว

ส่วนกรณีเกิดกระเเสเรื่องการย้ายภูมิลำเนาของประชาชนเพื่อรับสิทธิ รมช. คลังกล่าวว่า ประเด็นแรกทางกระทรวงการคลังไม่มีข้อแนะนำให้ประชาชนย้ายภูมิลำเนาเพื่อรับสิทธิ เนื่องจากรัฐบาลต้องการใช้กลไกนี้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ทั่วทุกภูมิภาค เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในทุกพื้นที่

Advertisment

หากประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาก็สามารถใช้เงินดิจิทัลที่บ้านเกิดได้ เพราะมีระยะเวลาถึง 6 เดือน ซึ่งจะครอบคลุมช่วงปีใหม่และสงกรานต์ ที่มีการรณรงค์ให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และการกลับไปใช้เงินดิจิทัลวอลเลตที่บ้านเกิดจะทำให้เกิดประโยชน์กับภูมิลำเนาของตนเอง

“การย้ายทะเบียนเป็นสิทธิของประชาชน ภาครัฐไม่สามารถห้ามได้ เบื้องต้นตัวเลขการย้ายภูมิลำเนาไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่เมื่อมีการย้ายทะเบียนมาแล้ว ระบบจะจับอำเภอของผู้ลงทะเบียนในวันที่มีการลงทะเบียน และจะล็อกไว้ หากมีการย้ายทะเบียนบ้านหลังจากนั้น ระบบจะยึดถือทะเบียนบ้านในวันลงทะเบียนร่วมโครงการเป็นหลัก”

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และธุรกิจวอลเลตต่าง ๆ ตอบรับว่าสนใจเข้าร่วม Open Loop แล้ว 14 ราย ยังมีเวลาในการพิจารณาจนถึงวันที่ 15 ส.ค.นี้ ซึ่งหากผู้ประกอบการรายใดแสดงความสนใจเข้าร่วมแล้ว ก็จะต้องมีการทำหนังสือถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้สอบทานการเชื่อมระบบการใช้จ่ายของสถาบันการเงินกับโครงการดิจิทัลวอลเลตด้วย มีกำหนดว่าจะต้องแจ้งให้ ธปท.ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนเปิดใช้งานระบบ